กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก.,เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รรท.ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ,พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว,พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ.,สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมปฏิบัติการทลายแหล่งจำหน่ายยาออนไลน์ ที่ประชาชนและวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงใช้ผสมน้ำกระท่อมดื่มสร้างความมึนเมา ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ตรวจยึดของกลาง จำนวน 49 รายการ มูลค่ากว่า 800,000 บาท
สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ให้ตรวจสอบเว็บไซต์ https://rachasyrup.com/ ซึ่งมีการโฆษณาจำหน่ายยาแผนปัจจุบันที่อยู่ในประเภทยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงที่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิด อาทิเช่น ยาแก้ปวด(ทรามาดอล) ยาแก้แพ้ และยาแก้ไอ ซึ่งประชาชน และเยาวชนกลุ่มเสี่ยง นิยมซื้อเพื่อนำไปผสมน้ำกระท่อมดื่มสร้างความมึนเมาหรือที่เรียกกันว่า “4×100” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจสอบเว็ปไซต์ดังกล่าว พบว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงจริง และทำการสืบสวนจนทราบถึงกลุ่มเครือข่ายผู้จำหน่าย สถานที่จัดเก็บ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายค้นเข้าตรวจค้นของศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผลการตรวจค้นพบ นายวัชรพันธ์ (สงวนนามสกลุ) อายุ 26 ปี เป็นผู้นำตรวจค้น ตรวจยึดยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงที่นิยมนำไปผสมสูตร 4×100 และของกลางอื่น จำนวน 49 รายการ ส่งพนักงานสอบสวน กก. 4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี ดังนี้
1.ยาทรามาดอล(ยาเขียวเหลือง) ปลอม ยี่ห้อ Pacmadol จำนวน 11,000 แคปซูล (เป็นยาที่ถูกยกเลิกทะเบียนแล้ว ตั้งแต่ปี 2555 และไม่มีทะเบียนใหม่ในชื่อการค้านี้ เข้าข่ายเป็นยาปลอม) 2. ยาทรามาดอล(ยาเขียวเหลือง)ไม่มีทะเบียน จำนวน 2 ยี่ห้อ (ต้องสงสัยว่าจะเป็นการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน) จำนวน 7,000 เม็ด 3.ยาน้ำแก้แพ้ แก้ไอ จำนวน 18 ยี่ห้อ รวมจำนวน 10,500 ขวด 4.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (Alprazolam)จำนวน 1,378 เม็ด 5.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 4 (Clonazepam 4 ยี่ห้อ และ Diazepam 1 ยี่ห้อ)จำนวนรวม 14,030 เม็ด 6.อุปกรณ์สำหรับจัดส่งพัสดุ จำนวน 5 รายการ-ลังพัสดุ คละขนาด 3,440 ชิ้น -ม้วน sticker 96 ม้วน – ซองซิปยา 100 ใบ-เครื่องปริ้นพกพา 1 เครื่อง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายวัชรพันธ์ ฯ จบการศึกษาระดับชั้น ม.6 ไม่มีความรู้เกี่ยวกับยา หรือวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทแต่อย่างใด แต่เห็นว่าปัจจุบันวัยรุ่นนิยมดื่ม น้ำกระท่อมผสมกับยาแก้ไอ และยาทามาดอล เรียกว่า 4 x 100 จึงได้ทำการ รับซื้อยามาจากหลายช่องทาง เช่น ตามกลุ่มทวิตเตอร์ กลุ่มเฟสบุ๊ค เพื่อนำมาขายออนไลน์ให้กับลูกค้าผ่านช่องทางเพจเฟสบุ๊คซึ่งขายให้กับประชาชนทั่วไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยทำการขายยามาแล้วประมาณ 1 ปี มีรายได้เดือนละ 50,000-60,000 บาท เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม 1. พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 94 ฐาน “ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย มีไว้ในครอบครอง หรือนำผ่านซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ เว้นแต่เป็นกรณีที่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 700,000 บาท 2.พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510– ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท- ฐาน “ผลิตยาปลอม” ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี- 20 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000–10,000 บาท ฐาน“ขายยาไม่มีทะเบียนตำรับยา”ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า สถานที่ดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตด้านยา ไม่สามารถทำการโฆษณาและขายยาให้แก่ประชาชนได้ ซึ่งพบว่าสถานที่ดังกล่าวมีพฤติการณ์ในการโฆษณาขายและรับออเดอร์จากลูกค้าทางเฟสบุ๊ค ทางเว็บไซด์ ชื่อ Rachasyrup และทางกลุ่มไลน์ ชื่อ MONOTAX SHOP เมื่อรับออเดอร์แล้วจะทำการจัดส่งทางไปรษณีย์ให้แก่ลูกค้าโดยตรง พบมีการรับซื้อยาอันตรายกลุ่มเสี่ยงหลายยี่ห้อ ซึ่งจากการตรวจค้นพบแต่ยาอันตรายกลุ่มเสี่ยง ประเภท ยาน้ำแก้แก้ไอ ยาเขียวเหลือง รวมถึงวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 และ 4 ซึ่งเป็นยาที่นิยมนำไปผสมน้ำกระท่อม ในสูตร 4×100 และที่สำคัญคือ พบว่ายาดังกล่าวบางรายการเป็นยาปลอม ยาไม่มีทะเบียนที่สงสัยว่าจะนำเข้าจากต่างประเทศ โดยผู้ที่ใช้ยาดังกล่าวจะมีอาการหลอน เคลิบเคลิ้ม มึนงง และเป็นสาเหตุในการติดยาเสพติดที่มีฤทธิ์รุนแรงต่อไป ขอเตือนผู้ขายยาอันตรายกลุ่มเสี่ยง ว่าการกระทำดังกล่าวนอกจากจะมีโทษปรับแล้ว ยังมีโทษจำคุกอีกด้วย ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา เพื่อลดการนำยาไปใช้ในทางที่ผิดในชุมชนจนเป็นสาเหตุของการเสพติดยาที่รุนแรงตามมา หากผู้บริโภคพบการลักลอบผลิตหรือขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th, Line: @FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รักษาราชการแทน ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวฝากความห่วงใยว่า ประชาชนควรซื้อยาจากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ โดยอยู่ภายใต้คำแนะนำของเภสัชกรผู้มีความรู้ เพราะยาเป็นปัจจัย 4 ที่ใช้รับประทานเพื่อรักษาโรค ไม่ใช่สิ่งที่รับประทานเพื่อหวังผลข้างเคียงในการสร้างความมึนเมา ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มผู้กระทำความผิดบางรายอาศัยผลข้างเคียงของยาหารายได้จากการจำหน่ายยา โดยที่ไม่มความรู้ด้้านยาหรือใบประกอบวีชาชีพเภสัชกรรม ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับ อย. ตรวจสอบ เฝ้าระวังการผลิตและขายยากลุ่มเสี่ยง เช่น ยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ ยาทรามาดอล ฯลฯ ซึ่งเป็นยาอันตรายที่ประชาชนและกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเสี่ยง นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ผสมน้ำต้มพืชกระท่อมดื่มในลักษณะสารเสพติดที่เรียกว่า “4×100” เพื่อหวังผลให้เกิดอาการมึนเมา บก.ปคบ.จะดำเนินกวดขันจับกุมผู้ที่ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ถึงที่สุด โดยประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค
