ตม.จว.อยุธยา-ตร.ทล.สกัดจับรถขนแรงงานเถื่อนเมียนมา11คนซิ่งหนีเข้าเมือง

0
12

  เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568 พ.ต.อ.สถิตย์ วิชัยกุล ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2568 เวลา 17.00 น. พ.ต.ท.พงศธร รักษาทิพย์ รอง ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยาพร้อมตำรวจ ตม.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง ผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.ตำรวจ ส.ทล.6 กก.บก.ทล. (สิงห์บุรี) ร่วมกันจับกุม นายซอ เซ ลินนาย อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา (คนขับรถ) น.ส.แน เซ มา อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมผู้โดยสารคนต่างด้าวแรงงานเถื่อน สัญชาติเมียนมา ชาย หญิง รวม 11 คน โดยจับกุมได้ที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 46-47 ทล 32 ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา

 สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมุ่งหน้าเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธย ตรวจสอบเส้นทางจนกระทั่งพบรถยนต์นั่งสองตอนแวนยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น สีขาว หมายเลขทะเบียน ฌล 3869 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึงบริเวณ กม.46-47 ทล.32 ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ จากการสอบถามพบมี นายซอ เซ ลินนาย อายุ 39 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นคนขับคันดังกล่าว และมี น.ส.แน เซ มา อายุ 32 ปี สัญชาติเมียนมา นั่งเบาะด้านซ้ายข้างคนขับและพบว่ามีผู้โดยสารนั่งอัดกันมาในรถชาย หญิง สัญชาติเมียนมา รวม 11 คน มากับรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าทั้งหมดเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง

 จากการสอบถามนายซอ เซ ลินนาย ให้การยอมรับว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงชื่อนางสาวแสงจันทร์ (ขอสงวนนามสกุล) ใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ สั่งให้ไปรับแรงงานต่างด้าว จำนวน 9 คนที่ จ.ชัยนาท ตนจึงได้ชักชวน น.ส.แน เซ มา เพื่อให้มานั่งเป็นเพื่อนตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯจนไปถึง จ.ชัยนาท รับคนต่างด้าวเพื่อนร่วมชาติเพื่อนำไปส่งปลายทางพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยได้เก็บค่าจ้างจากแรงงานคนละ 800 บาท โดยโอนเงินค่าจ้างจากนางสาวแสงจันทร์ โอนไปยังบัญชีของนางสาวแน เซมา ก่อนหน้านี้ก็จะได้รับการโอนเงินค่าจ้างขนคนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองหลายครั้ง ตนรับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง โดยรู้ว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 9 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ ส่วนนางสาวแน เซมา รับว่า ได้รับการชักชวนจากนายซอ เซ ลินนาย ให้นั่งรถมาเป็นเพื่อนเพื่อมารับแรงงานต่างด้าวทั้ง 10 หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจาก จว.ชัยนาท เพื่อไปส่งปลายทางกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยตนเองไม่ได้ค่าจ้างแต่ยอมรับว่า ได้ใช้บัญชีธนาคารโอนเงินค่าจ้างจริง ขณะที่คนต่างด้าวทั้ง 9 คนสอบถามผ่านล่ามให้การยอมรับว่าได้ลักลอบหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถนำพาเข้ามาหางานทำในประเทศไทย เสียค่าใช้จ่าย 5,000-15,000 บาทต่อคน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายซอ เซ ลินนาย และนางสาวแน เซมา “ร่วมกันรู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนคนต่างด้าวแจ้งข้อหา“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.มหาราช จว.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป