ตร.ทล.4 จว.บูรณาการร่วมกันจับกุมรถลักลอบขนแรงงานต่างด้าว 43 คน

0
444

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.67 พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รองผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รองผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6กก.1บก.ทล.พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอยุธยา ได้ร่วมกันเข้าสกัดจับกุมรถกระบะขนแรงงานต่างหลบหนีเข้าเมือง จำนวน3 คัน โดยจับกุมได้ที่บริเวณ กม.72-73 ทล.11 ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ประกอบด้วย 1.รถยนต์กระบะยี่ห้อ TOYOTA REVO สีเทา หมายเลขทะเบียน ผค-4568 พิษณุโลก 2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีดำ หมายเลขทะเบียน บพ-1849 อุตรดิตถ์ 3.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา หมายเลขทะเบียน ขจ-2053 พิษณุโลก รวมจำนวน 3 คัน พร้อมทั้งคนไทยซึ่งเป็นคนขับรถ 1.นายเตชินท์ อายุ 30 ปี 2.นายชยากร อายุ 42 ปี 3.นายสมัย อายุ 30 ปี และแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนม่า ชาย-หญิง จำนวน 43 คน
ด้าน พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.ได้ให้ข้อมูลว่าทางด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมด้วยตำรวจสอบสวนกลาง ได้มีนโยบายให้จับกรมแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในประเทศซึ่งอาจจะมาก่อเหตุอาชญากรรมและนำโรคหลายเข้ามาในประเทศ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกองบังคับการ1 จึงได้ออกตรวจตราเพื่อจับกุมแรงงานต่างด้าวสัญชาติต่าง ๆ ที่หลบหนีโดยใช้ยานพาหนะไม่ว่า จะเป็นรถยนต์กระบะ รถเก๋ง รถนั่งส่วนบุคคล หรือไม่รถตู้ที่มีคนไทยได้ถูกว่าจ้างให้มาส่งในพื้นที่ต่างๆ ภายในประเทศไทย ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง กองกำกับการที่ 1 ทั้ง 4 จังหวัดได้มีการบูรณาการร่วมกันจับกุมรถกระบะ จำนวน 3 คัน และแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ที่หลบหนีเข้ามาในประเทศได้จำนวน 43 คน ซึ่งจากการสอบถามผู้ต้องหาที่เป็นคนขับซึ่งเป็นคนไทยได้รับสารภาพว่า ได้ค่าจ้างครั้งละ 12,000 บาท ส่วนแรงงานต่างด้าวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าประเทศ 15,000 ถึง 25,000 บาท โดยหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสภ.ไพศาลี ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินคดีต่อไป