ตม.สุราษฎร์ธานี รวบหมอชาวรัสเซียเปิดคลินิกความงามเถื่อน

0
296

วันที่ 13 มี.ค.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติรัสเซีย จำนวน 2 ราย จับกุมนายอเล็กซานเดอร์ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี โดยกล่าวหาว่า ทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้ และน.ส.ลิลเลีย (นามสมมติ) อายุ 32 ปี โดยกล่าวหาว่าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด จว.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย จับกุม ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี สืบทราบว่ามีคนต่างชาติลักลอบเปิดสถานประกอบการเสริมความงามในลักษณะเป็นสถานพยาบาลในพื้นที่ ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี โดยเปิดให้บริการหลายประเภท รวมทั้งมีการรักษาด้วยวิธีการปั่นเกล็ดเลือดแล้วนำกลับไปฉีดเข้าร่างกายของผู้รับบริการ ซึ่งมีผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งการบริการประเภทนี้จะต้องได้รับการควบคุมจากเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง ซึ่งถ้าไม่มีการควบคุมอาจจะเป็นอันตรายจนถึงชีวิตต่อผู้มาขอรับบริการได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้สืบค้นข้อมูลสถานบริการดังกล่าวจากในโลกโซเชียลปรากฏว่ามีการโฆษณาการให้บริการในแอปพลิเคชั่น สื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ จำนวนมาก ที่สามารถนำข้อมูลมาทำการสืบสวนได้ เช่น ภาพการลงโฆษณาการให้บริการในแอปพลิเคชั่น TIKTOK และ Instagram ที่ปรากฏให้เห็นการบริการในสถานประกอบการดังกล่าวและตัวคนต่างชาติที่ทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสถานบริการดังกล่าวได้เช่าพื้นที่ของโรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเป็นสถานประกอบการ โดยไม่ปรากฎว่ามีการจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลตามกฎหมาย ทราบว่าเจ้าของสถานบริการดังกล่าว เป็นคนต่างชาติสัญชาติรัสเซียชื่อ น.ส.ยูเลีย (นามสมมติ) และมีคนต่างชาติทำหน้าที่เป็นหมอเสริมความงามที่ปรากฎในการลงโฆษณาจำนวนหลายราย โดยวิธีการผลัดเปลี่ยนกันมาให้บริการตามรายการจองเข้าใช้บริการของลูกค้า จนเป็นที่แน่ชัดว่าสถานประกอบการดังกล่าวเปิดโดยผิดกฎหมายและมีคนต่างชาติมาทำงานโดยผิดกฎหมาย ตม.จว.สุราษฎร์ธานี จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนเข้าจับกุม ขณะเข้าทำการจับกุมได้พบ น.ส.ลิลเลีย (นามสมมติ) และนายอเล็กซานเดอร์ (นามสมมติ) กำลังให้บริการเสริมความงามใบหน้าและบริการนวดรักษาอาการอักเสบกล้ามเนื้อแก่ลูกค้าคนต่างชาติด้วยกัน จากการตรวจสอบเอกสารพบว่า น.ส.ลิลเลีย ไม่มีใบอนุญาตทำงาน ส่วนนายอเล็กซานเดอร์ ได้รับอนุญาตให้ทำงานกับบริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ประเภทกิจการให้บริการที่พักอาศัย แต่มาทำงานเสริมความงาม จึงเป็นการทำงานนอกเหนือสิทธิ์ที่จะทำได้ นอกจากนี้ยังพบยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษ,ยาที่ไม่มีสลากภาษาไทยเข้าข่ายยาที่ไม่ขึ้นทะเบียนในสถานพยาบาล,ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ใช้ในการให้บริการกับผู้ที่ใช้บริการเสริมความงามกับสถานพยาบาลดังกล่าวอีกจำนวนหนึ่งไว้จึงยึดไว้เพื่อตรวจสอบและตรวจพบทำหัตถการ อุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องปั่นพลาสมา (เครื่องแยกเกล็ดเลือด) เข็มฉีดยาที่ใช้แล้วจำนวนมาก ยาที่มีเข็มฉีดยาเสียบติดไว้ที่เพิ่งผ่านการให้บริการ เข็มฉีดยาหลายขนาด กระบอกฉีดยา ผลิตภัณฑ์เสริมความงามอยู่ในตู้เย็นและลิ้นชักซึ่งจัดไว้ให้บริการแก่ลูกค้า ระเบียนการรักษาหรือ OPD การ์ดของลูกค้าผู้มาใช้บริการ และรายการอัตราค่าบริการมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งพยานหลักฐานเหล่านี้บ่งชี้ชัดว่าสถานประกอบการดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลซึ่งไม่พบว่ามีการจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนเป็นสถานพยาบาลตามกฎหมาย จึงได้ตรวจยึดสิ่งของเหล่านี้ไว้เป็นของกลางทางคดีและดำเนินคดีกับคนต่างชาติทั้ง 2 ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือทำงานนอกเหนือสิทธิ์ ที่จะทำได้ พร้อมทั้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ น.ส.ยูเลีย อายุ 41 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้จัดการตามคำให้การของผู้ถูกจับทั้ง 2 ราย ในความผิดฐานจัดตั้งกิจการสถานประกอบการพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 16 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และจำหน่ายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 12 และมียาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับ ตามมาตรา 72 (4) แห่ง พ.ร.บ.ยา 2510
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง