วันที่ 14 เมษายน 2566 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.PCT ชุดที่ 5, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น./รอง หน. PCT ชุดที่ 5 ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. ,พ.ต.ต.กิติศักดิ์ ออกรัมย์ ,พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.ฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) จับกุมตัว น.ส.พรณภา อายุ 33 ปี อยู่ต.เก่าขาม อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ตามหมายจับศาลศาลอาญาที่ 1094/2566 ลงวันที่ 7 เม.ย. 66 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ จับตัวที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ซ.สุขศิริ ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
คดีนี้สืบเนื่องจากได้มีทันตแพทย์หญิงรายหนึ่ง ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ว่าได้ถูกมิจฉาชีพรายหนึ่งหลอกลวงขายกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อ CELINE มือสอง ในราคา 57,000 บาท ซึ่งต่อมาเมื่อสินค้าส่งมาถึงกลับเป็น ครีมกันแดด ,โลชั่นทาผิว และขนมบูด (หมดอายุ) จำนวน 3 กล่อง ซึ่งเมื่อผู้เสียหายติดต่อกลับไปหามิจฉาชีพรายนี้จะอ้างว่า “ส่งผิด ,เดี๋ยวจะส่งให้ใหม่” และท้ายสุดบ่ายเบี่ยงและไม่สามารถติดต่อได้อีก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ได้สืบสวนพบข้อมูลมิจฉาชีพ ก่อเหตุลักษณะนี้ในห้วง 30 มี.ค. ถึง 5 เม.ย. 66 มาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง ทุกรายจะสั่งซื้อกระเป๋า แต่จะได้รับสิ่งของเฉกเช่นเดียวกับทัณตแพทย์หญิง ซึ่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัส ผบ.ตร. ได้วิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่ามิจฉาชีพรายนี้ไม่ธรรมดา ได้รับเงินโอนจากผู้เสียหายแล้ว จะทำการสั่งซื้อของออนไลน์จากร้านค้าอื่นๆ ในพื้นที่ภาคเหนือให้ส่งสินค้าซึ่งไม่ใช่กระเป๋าแบรนด์เนม ไปให้ผู้เสียหาย และยังเบี่ยงประเด็น อ้างเป็นการ “ส่งผิดที่ ส่งสลับกับลูกค้ารายอื่นๆ” ไม่ได้เป็นการฉ้อโกง ถือเป็นมิจฉาชีพที่มีการวางแผน กำหนดรูปแบบมาเพื่อก่อเหตุเป็นอย่างดี
ต่อมาพล.ต.ต.ธีรเดช สั่งให้ชุดสืบสวนอำพรางการแต่งกายอยู่ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ เข้าจับกุมตัว น.ส.พรณภา พร้อมตรวจค้นห้องพัก พบสมุดบันทึก ซึ่งปรากฏหมายเลขบัญชี ที่ได้เปิดไว้ใช้ในการก่อเหตุหลายบัญชี และสลิปการโอนเงินต่อไปยังผู้ร่วมขบวนการ จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง
สอบสวน น.ส.พรณภา ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ตนว่างงานไม่มีรายได้เพื่อหาเงินให้ลูกไปเข้าโรงเรียน จึงคิดอยากจะหารายได้เสริม และได้มีเฟสบุ๊คชื่อว่า ItsmeCatuii ได้ส่งข้อความมาหาโดยแจ้งว่า “รับสมัคร แอดมิน เลขา ขอคนมีเวลาตอบไลน์เร็ว รายได้ 1,000-1,500 บาทต่อวัน รายเดือน 25,000-30,000 บาท ต่อเดือน ไม่มีค่า สมัคร ถูกกฎหมาย 100% โดยบอกขั้นตอน การทำงาน คือ 1.รับโอนเงินจากลูกหนี้ 2.ถ่ายรูปเวลาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอม 3.กดถ่ายรูปเสร็จให้นำเงินที่ถ่ายรูป ฝากให้ลูกหนี้ที่จะกู้เงินอีกทีนึง โดยใช้ตู้ฝากเงิน 4.ทำรีวิวแชทถือเงินสด งานไม่ผิดกฎหมาย ไม่เสียค่าสมัคร โดยตนได้เริ่มทำงานกับผู้ใช้บัญชี และยอมรับว่า ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 6,000 บาท และรู้สึกเสียใจมากเพราะบทลงโทษมันไม่คุ้มได้คุ้มเสีย อีกทั้งตัวผู้ร่วมขบวนการยังเอาบัตรประชาชนของตนไปปลอมแปลงและวางไว้บนสินค้าเพื่อขายในโลกออนไลน์อีก
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวน มีคนร้ายร่วมกระทำความผิดไม่ต่ำกว่า 2 คน บางรายพฤติกรรมเข้าข่ายลักษณะการ ฟอกเงิน ซึ่งเราจะมีการขยายผลจนถึงที่สุด