ชาวบ้านหลักหกร้องถมคลองเปรมประชากร-หวั่นเกิดน้ำท่วม

0
389

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่หน้าตึกที่ทำการเทศบาลตำบลหลักหก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี นายภาณุเมศวร์ ศิรินรานันตร์ แกนนำตัวแทนประชาชนหลักหกพร้อมชาวบ้าน ต.หลักหกจำนวน 50 คนรวมตัวกันยื่นหนังสือร้องทุกข์ถึงความเดือดร้อนจากการถมคลองเปรมประชากร ใน ต.หลักหก จ.ปทุมธานี เพื่อทำเขื่อนและก่อสร้างบ้านมั่นคงต่อนายสมศักดิ์ งามแท้ นายกเทศบาลตำบลหลักหก แต่นายกเทศบาลตำบลหลักหกติดราชการ จึงให้นายสมบัติ์ ธรรมขันแข็ง รองปลัดเทศบาลตำบลหลักหก เป็นตัวแทนรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว
นายภาณุเมศวร์ ศิรินรานันตร์ แกนนำตัวแทนประชาชนหลักหก กล่าวว่า การถมคลองเปรมประชากรและก่อสร้างบ้านมั่นคง ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2566 ที่ผ่านมา พวกเราชาวหลักหก ประกอบด้วย ชุมชนหลักหก ชุมชนเมืองเอก ชุมชนวิภาวรรณ ชุมชนวราสิริ และประชาชนทั่วไป ได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จากการถมคลองเปรมประชากรเมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม 2566 เกือบเต็มคลองเพื่อก่อสร้างบ้านมั่นคงเฟสสอง โดยไม่เคยทำประชาพิจารณ์ ไม่เคยศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เคยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ทำให้พวกเราชาวหลักหก ได้รับผลกระทบจากฝนตกน้ำท่วม เนื่องจากเหตุคือ การก่อสร้างบ้านมั่นคงในเฟสหนึ่งได้ถมคลองและทำเขื่อนป้องกันตลิ่งกลางคลองเปรมประชากรไปตลอดแนวคลองประมาณ 700 เมตร ทำให้พื้นที่รับน้ำส่วนหนึ่งของชุมชนทุกชุมชนหายไป และยังไม่มีมาตรการในการบริหารจัดการน้ำและระบบสาธารณูประโภคอย่างถูกต้อง เช่น ทำเขื่อนป้องกันตลิ่งทั้งสองฝั่งคลอง ขุดลอกคลองให้ลึก 4 เมตร ขยายความกว้างคลอง ทำระบบระบายน้ำฝนของทุกชุมชน ทำระบบบ่อบัดน้ำเสียของทุกชุมชน เป็นต้น ผลคือ คลองแคบลง เมื่อฝนตกหนัก ทำให้ไม่มีพื้นที่รองรับน้ำฝน น้ำจึงได้ล้นคลองขึ้นมาท่วมชาวหลักหกที่อาศัยตลอดแนวคลองเปรมประชากร รวมไปถึงกระทบชุมชนวัดนาวง และชุมชนเมืองเอก คลองเปรมประชากรขุดโดยพระราชดำริของรัชกาลที่ 5 เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร และได้ทรงมอบที่ดินสองฝั่งคลองให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้ทำมาหากินตลอดแนวคลองเปรม ฯ คลองเปรมประชากรมีอายุ 153 ปีถือเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ณ ปัจจุบันคลองมีความกว้างประมาณ 50 เมตร แต่วันนี้ถูกรุกล้ำคลอง ถมคลองให้แคบลงโดยอ้างมติกำหนดไว้ว่า คลองมีความกว้าง 25 เมตร เพื่อสร้างบ้านมั่นคง โดยอ้างเป็นแผนแม่บท เป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อพัฒนาชุมชนริมคลอง อ้างปรับทัศนียภาพ ประชาชนที่บุกรุกริมคลองเดิมซึ่งเป็นคนมีรายได้น้อย กลับต้องแบกหนี้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 500,000 บาท หรือมากกว่า และไม่มีที่อยู่ที่ทำกินอย่างถาวร และประชาชนที่อาศัยอย่างถูกกฎหมายทุกๆ ชุมชนที่อยู่โดยรอบคลองเปรม ฯ กลับต้องแบกรับความเสี่ยงภัยน้ำท่วม น้ำท่วมขัง ความเสียหายความเดือนร้อนอย่างแสนสาหัสมากยิ่งขึ้น ขนาดเกิดฝนตกหนักวันเดียว 3 ชั่วโมงยังเกิดน้ำท่วมได้คงไม่ต้องพูดถึงฝนตกตลอดคืน หรือตลอดวัน หรือเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ซึ่งมีทั้งฝนตก และน้ำเหนือ ไหลบ่าผ่านลงมา ก็คงเกิดน้ำท่วมใหญ่ เฉกเช่นเดียวกับปี 2554
นายภาณุเมศวร์ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ที่ชาวบ้านต้องเดินทางมาเพราะการก่อสร้างโครงการบ้านมั่นคงของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิตจำกัด มีการถมคลองส่งน้ำเปรมประชากรซึ่งเป็นสมบัติของแผ่นดิน ทำไมกรมธนารักษ์มานำคืนไปแล้วมาก่อสร้างถมคลองก่อสร้างบ้านแล้วปล่อยให้เช่าพอปล่อยเช่าก็มีการก่อตั้งสหกรณ์โดยไม่ทราบว่าเอาใครมาจัดตั้งแล้วเข้าอยู่ ที่สำคัญคือหากโครงการนี้สร้างเสร็จส่งส่งผลเรื่องความเดือดร้อนตามมาคือ น้ำท่วม การจราจรที่จะติดขัดมากขึ้น จุดที่ก่อตั้งโรงการก็จะเป็นแหล่งเสื่อมโทรมในอนาคต เราจึงออกมาเรียกร้องเพราะเทศบาลเป็นหน่วยงานหลักในการอนุญาตว่า มีการอนุญาตได้เช่นไร ซึ่งเรายื่นครั้งนี้ครั้งที่สองแล้ว เดิมก็มีถนนเลียบคลองอยู่แล้วอาจจะมีบางจุดที่แคบบ้าง แต่ทุกวันนี้มีการก่อสร้างรุกล้ำบนถนนหน้าบ้านติดถนน จะทำให้การจราจรของชาวบ้านที่จะเดินทางเข้า กทม.ลำบากยิ่งขึ้นเพราะการจราจรติดขัดจึงเป็นประเด็นหลัก อันดับต้นๆ คือน้ำท่วมเพราะช่วงแรกที่เฟส1สร้างเสร็จ เมื่อมีฝนตกลงมาเพียง 3 ชม.ส่งผลให้น้ำท่วมบนถนนเลียบคลองและบ้านของประชาชนเพราะคลองแคบส่งผลต่อการระบายน้ำ จึงอยากให้เทศบาลตำบลหลักหกระงับการก่อสร้างโครงการอย่าให้มีการถมคลอง รอรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทำประชาวิจารณ์ให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็นได้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่ประชาชนอยากได้