สืบสวนนครบาลบุกจับหนุ่มเกาหลีเก๊ นำเข้า ยาอี ยาเลิฟ เปลี่ยนชื่อให้เหมือน โอปป้า ทำศัลยกรรมเปลี่ยนหน้าจนไม่เหลือเค้าหน้าเดิม

0
473

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ตำรวจศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) สนธิกำลังชุดสืบสวนนครบาล นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.หน.ศอ.ปส.ตร. ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่แกะรอยติดตามจับกุมตัว นายจีมิน ซ็อง หนุ่มเกาหลีเก๊ ซึ่งแท้จริงเป็นคนสัญชาติไทย ชื่อ นายจีมิน ซ็อง หรือ นายสหรัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี อยู่ตรอกวัดอัมพวา แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่หลบหนีการจับกุมนานเกือบ 3 เดือน สามารถจับกุมได้ ภายในห้องพักคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางนา กรุงเทพฯ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากพล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศอ.ปส.ตร. ได้รับรายงานมียาเสพติดประเภทยาอี หรือยาเลิฟ แพร่ระบาดในพื้นที่กรุงเทพ และปริมณฑล จึงสั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ทำการสืบสวนติดตาม จนทราบเบาะแสแหล่งที่มาของยาเสพติด คือ หนุ่มเกาหลี หน้าตาดีรายหนึ่งในย่านบางนา มีพฤติกรรมนำเข้ายาเสพติดชนิดยาอี หรือยาเลิฟ โดยส่งมาทางพัสดุไปรษณีย์ จากประเทศทางแถบยุโรป และทำมาอย่างต่อเนื่องโดยมักจะใช้บุคคลที่รู้จักจากทางเฟซบุ๊กให้คอยรับส่งพัสดุยาเสพติดให้ ต่อมาทีมสืบสวนจนสามารถยืนยันตัวตนได้ว่า นายจีมิน ซ็อง เป็นคนสัญชาติไทย แต่จงใจเปลี่ยนชื่อให้เหมือนคนเกาหลี และยังได้ผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม (Face off) และจากการตรวจสอบพบว่า นายจีมิน-ซ็อง เป็นบุคคลตามหมายจับ ซึ่งเคยถูกพนักงานสอบสวน บช.ปส. ออกหมายจับไว้ จึงส่งทีมตามแกะรอยเป็นเวลา 3 เดือน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้อุบายเสนอตัวผ่านทางเฟซบุ๊กเพื่อสมัครเป็น “เป็นเด็กส่งของ” ให้กับนายจีมิน ซ็อง จนสามารถสืบทราบได้ว่า ที่อยู่ของผู้ต้องหาว่าพักอยู่ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตบางนา จ.กรุงเทพฯ จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นและจับกุมตัวได้ในที่สุด

นายจีมิน ซ็อง ให้การรับสารภาพว่า ที่ตนเองเปลี่ยนมาเป็นชื่อภาษาเกาหลี เพราะต้องการที่จะย้ายไปอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ และยอมรับว่ามารดาของตนนั้น เคยถูกดำเนินคดีจำหน่ายยาเสพติด เมื่อปี 2554 ซึ่งปัจจุบันมารดาพ้นโทษออกมาแล้ว และย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า จากข้อมูลของนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของคนร้ายรายนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในต้นตอสำคัญ ของการแพร่ระบาดของยาอี และยาเลิฟ โดยคนร้ายรู้จักวิธีการตัดช่องทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และมีการศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงใบหน้า เพื่ออำพรางการติดตามจากเจ้าหน้าที่ อีกทั้งเชื่อว่ามีผู้ที่คอยให้การสนับสนุนอยู่ในต่างแดน ซึ่งจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด เพราะปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาระดับชาติ เป็นปัญหาเรื้อรังที่หยั่งรากลึกอยู่ในสังคมไทย โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติด โดยทำสงครามกับยาเสพติดให้สิ้นซาก