ตำรวจ ปคบ.ร่วม อย.ทลายโกดังเครื่องสำอางแบรนด์ไทยปลอม-ยาสีฟันปลอมยี่ห้อดังมูลค่าของกลางกว่า 14 ล้านบาท

0
711

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์ พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ. ว่าที่ พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีทลายเครือข่ายลักลอบนำเข้าเครื่องสำอางแบรนด์ไทยปลอมหลากยี่ห้อและกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อดังโดยลวงขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลางกว่า 70 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 14,000,000 บาท   สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการ คุ้มครองผู้บริโภค ได้รับเรื่องร้องเรียนจากบริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด ว่าพบผลิตภัณฑ์ยาสีฟันสมุนไพรยี่ห้อ เทพไทยปลอม แพร่ระบาดในตลาดออนไลน์ เป็นจำนวนมาก จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า มีการจำหน่ายยาสีฟัน สมุนไพรเทพไทยปลอมบนแพลตฟอร์มช้อปปี้จริงและพบว่ากลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดมีการลักลอบนำสินค้าปลอมเข้ามาจากประเทศจีน จากนั้นนำมาเก็บไว้ที่โกดังเก็บสินค้าในพื้นที่เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร เพื่อรอการบรรจุแล้วส่งขายให้กับลูกค้าโดยกลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะการกระทำความผิดคือมักจะสับเปลี่ยนบัญชีที่รับโอนเงินค่าสินค้าและสถานที่จัดเก็บสินค้าอยู่ตลอดรวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงชื่อร้านในแพลตฟอร์มช้อปปี้ โดยในระหว่างเดือนตุลาคม 2564 – ธันวาคม 2565 เกินกว่า 10 ครั้ง และมีใช้รถขนส่งเอกชนในการจัดส่งสินค้าในลักษณะอำพรางให้ตรวจสอบได้ยากและพบหลักฐานความเชื่อมโยงว่า มีร้านค้าออนไลน์ที่เครือข่ายดังกล่าวใช้ ที่อยู่หน้ากล่องสำหรับจัดส่งพัสดุสำหรับการขายสินค้าในแพลตฟอร์มช้อปปี้และลาซาด้ากว่า 18 ร้าน ต่อมาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับ อย. นำหมายค้นของศาลอาญาพระโขนงเข้าค้นสถานที่เก็บสินค้าในพื้นที่เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 จุด

  จากการตรวจสอบ 1.บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยสุภาพงษ์ 1 แยก 12 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บและแพ๊คสินค้าปลอมส่งให้ลูกค้าตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาสีฟันปลอมยี่ห้อเทพไทย จำนวน 36 หลอด และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห้ออื่นๆ ที่ต้องสงสัยว่าปลอม จำนวน 21 รายการ 2.บ้านหนึ่งภายในหมู่บ้านนุชเวศน์ ซอยอ่อนนุช 70/1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ต้องสงสัยว่าปลอมรวม 8 รายการและกระเป๋าแบรนด์เนมปลอมพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์ จำนวน 3 รายการ ประกอบด้วย 1.กระเป๋าถือยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง จำนวน 30 ใบ 2.กระเป๋าถือยี่ห้อกุชชี่ จำนวน 35 ใบ 3.กระเป๋าถือยี่ห้ออีฟแซงโรลองท์ จำนวน 2 ใบ 2.จากการสืบสวนขยายผลพบว่า สินค้าปลอมดังกล่าวส่งมาจากโกดังเก็บสินค้าในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 จึงได้ร่วมกับ อย. นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัท โลจิสติกส์แห่งหนึ่ง ต.บางพลีใหญ่อ.บางพลีจ.สมุทรปราการ ตรวจยึดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ต้องสงสัยว่าปลอม รวม 16 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 จำนวน 14 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 จำนวน 1 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิด ตามพ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 1 รายการ ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562 จำนวน 2 รายการ รวมตรวจค้นทั้งสิ้น 3 จุด ตรวจยึด 1.ยาสีฟันปลอมยี่ห้อเทพไทย 36 หลอด 2.ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่นที่ต้องสงสัยว่าปลอม ตามพ.ร.บ.เครื่องสำอางพ.ศ.2558 จำนวน 45 รายการ(กว่า37ยี่ห้อ) 3.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.อาหารพ.ศ.2522 จำนวน 14 รายการ 4.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 จำนวน 1 รายการ 5. ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510 จำนวน 1 รายการ 6.ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ.2562 จำนวน 2 รายการและกระเป๋าถือแบรนด์เนม 67 ใบรวมของกลางกว่า 67,430 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 14,000,000 บาท ในส่วนผลิตภัณฑ์ที่เป็นความผิดอื่นฯ อยู่ระหว่างติดต่อตัวแทนของแต่ละบริษัทเพื่อมายืนยันเพิ่มเติมจากการตรวจสอบเครือข่ายดังกล่าวพบว่ามี Mr.Zhong หรือนายจง (สงวนนามสกุล) สัญชาติจีน เป็นผู้ดูแลเบื้องต้นพนักงานสอบสวนกก.4บก.ปคบ.ได้แจ้งข้อกล่าวหานายจงฯในความผิดฐาน“ขาย เครื่องสำอางปลอมตามพ.ร.บ.เครื่องสำอางพ.ศ.2558และมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ตามพ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าพ.ศ.2534”โดยนายจง ให้การปฏิเสธแต่รับว่าตนมีหน้าที่นำสินค้าปลอมมาแพ็คและจัดส่งให้ลูกค้าตามออเดอร์โดยมีนายทุนชาวจีนเป็นผู้สั่งการ โดยได้รับค่าจ้างออเดอร์ละ 7-8 บาท เฉลี่ยวันละ 500-1,000 ออเดอร์ โดยนายจง รับว่าทำมาแล้วประมาณ 3 เดือนในส่วนผู้ต้องหารายอื่นอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อไป เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม 1.พ.ร.บ.เครื่องสำอางพ.ศ.2558 ฐาน“ขายเครื่องสำอางปลอม” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ 2.พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าพ.ศ.2534 ฐาน“มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมฯ” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้อย. ขอขอบคุณตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.)ที่สืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ค้าตรวจยึดผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายได้จำนวนมากในส่วนของพี่น้องประชาชนขอย้ำเตือนว่าผลิตภัณฑ์สุขภาพเช่นอาหารยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเครื่องสำอางเครื่องมือแพทย์จะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนจำหน่ายโดยสามารถดูได้ที่ฉลากผลิตภัณฑ์หรือที่บรรจุภัณฑ์ควรซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอนกรณีซื้อออนไลน์ให้ซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กับกรมพัฒนาธุรกิจ 3 การค้ากระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้วโดยเฉพาะยาไม่สามารถซื้อออนไลน์ได้ต้องซื้อจากร้านยาหรือได้รับการตรวจวินิจฉัยและจ่ายจากแพทย์ในสถานพยาบาลของรัฐหรือเอกชนเท่านั้นทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย.ได้ที่www.fda.moph.go.th และ Line@FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาตสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนอย.1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th Line@FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

 พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังและ ไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาใช้อย่าหลงซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านสื่อออนไลน์ เพียงเพราะเห็นแก่ราคาสินค้าที่ถูกกว่าท้องตลาดและหลงเชื่อการโฆษณาเพราะอาจส่งผลกระทบกับทางร่างกายและไม่ได้ผลลัพธ์ที่แท้จริงขอเน้นย้ำกับผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางแพลตฟอร์ม อี-มาร์เก็ตเพลส และทางสื่อออนไลน์ทั้งหลายว่า อย่านำสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาดเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุดทั้งนี้ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายใน ลักษณะอื่นใดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา