กรมสอบสวนคดีพิเศษโดยเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวได้จับกุมตัว
นายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีพิเศษที่ 52/2550 ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ 1171/2551 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2551 ในความผิดฐานร่วมกับพวกรวม 5 ราย ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (ซึ่งเป็นบัตรที่ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด)
คดีพิเศษนี้สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 20 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2549
นายสมชาย ผู้ต้องหากับพวกรวมถึงนายสุเมธ แซ่อุ้ย ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้จับกุมตัวก่อนหน้านี้ ได้ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม (บัตรเครดิต) รูดผ่านเครื่องรับรูดบัตรเครดิตของร้านบิวตี้เฮ้าส์ หรือ
ร้านพลอย โดยออกอุบายเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องรับรูดบัตรเครดิตจาก “ร้านพลอย” ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “ร้านบิวตี้เฮ้าส์” จากนั้นนำบัตรเครดิตปลอม นำมารูดผ่านเครื่องรับรูดบัตรเครดิตดังกล่าว เป็นจำนวนมาก เพื่อให้ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โอนเงินให้ตามธุรกรรมจากบัตรเครดิตที่เกิดขึ้นจำนวนหลายครั้ง มีมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ทั้งนี้ นายสมชายฯ นับเป็นผู้ต้องหารายที่ 3 ในคดีนี้ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ จับกุมได้ภายในระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา
นายสมชาย ผู้ต้องหา ทำหน้าที่เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับโอนเงินจากบัญชีของร้านพลอยหรือบิวตี้เฮ้าส์ แล้วทำการยักย้ายถ่ายโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารอื่น ๆ ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้วางแผนไว้ การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดตามมาตรา 269/4 ประกอบมาตรา 269/7 และมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับกรณีดังกล่าวไว้ทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 52/2550 และได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติต่อศาลจังหวัดพระโขนง ออกหมายจับนายสมชาย โกษาแสง ตามฐานความผิดข้างต้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สืบสวน
จนทราบว่า นายสมชาย ได้พำนักอยู่ที่ บริษัท วชิระยนต์ จำกัด เลขที่ 99/171 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จึงได้เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ได้นำตัวฝากขัง ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ภายใต้มติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.ยธ) ที่กำหนดให้เปลี่ยนแปลงสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาเข้าใหม่จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร