วันที่ 11 พ.ค. 65 จ.สงขลา แม่ร้อง “ปวีณา” ลูกสาว 7 ขวบ ถูกชายข้างบ้านวัย 51 ปี อนาจารใช้นิ้วสอดใส่อวัยวะเพศ ขณะเด็กนั่งเล่นบ้านยายก่อนทำทีเอ็นดูมาเล่นด้วย พอผู้ใหญ่เผลอจึงลงมือ เด็กถูกกระทำมาหลายครั้งแถมข่มขู่จะฆ่าให้ตาย หนูน้อยผวาไม่กล้าบอกใคร ความแตกเพราะแม่เจอคราบเลือดที่กางเกงในลูกจึงรู้ความจริง “ปวีณา” ประสาน ผกก.สภ.คอหงส์ จับกุมตัวทันที สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตำรวจเตรียมคุมตัวฝากขังศาล 12 พ.ค.นี้
น.ส.เก๋ (นามสมมมุติ) อายุ 25 ปี ชาวจ.สงขลา ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า ด.ญ.ออย (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 7 ขวบ ถูกนายตั้ม (นามสมมุติ) ชายข้างบ้านอายุ 51 ปี ล่วงละเมิดทางเพศโดยใช้นิ้วสอดใส่ในอวัยวะเพศ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เด็กไปเล่นที่บ้านยายซึ่งอยู่ใกล้กัน และนายตั้มก็ทำทีมานั่งเล่นกับเด็กก่อนที่จะอาศัยช่วงไม่มีคนอยู่กระทำกับเด็ก และยังข่มขู่ลูกสาวไม่ให้บอกใครมิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย ที่ตนทราบเพราะเห็นคราบเลือดที่กางเกงในของลูกจึงได้สอบถามจนรู้เรื่องที่เกิดขึ้น และลูกยังบอกว่าถูกนายตั้มกระทำมาหลายครั้งแล้ว
น.ส.เก๋ กล่าวอีกว่า หลังทราบเรื่องตนได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความที่สภ.คอหงษ์ ตำรวจได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกาย แพทย์ระบุ พบร่องรอยฉีกขาดที่อวัยวะเพศ และลูกสาวตนมีอาการหวาดผวาเมื่อได้ยินชื่อนายตั้ม ช่วงนี้ตนจึงพาลูกไปอาศัยอยู่บ้านญาติที่ จ.พัทลุง ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย เนื่องจากกลัวว่านายตั้มจะรู้เรื่องที่แจ้งความและหลบหนีไปก่อน
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.คอหงส์ ให้น.ส.เก๋ พาลูกสาว 7 ขวบ ไปพบช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.65 เพื่อสอบปากคำเด็กโดยทีมสหวิชาชีพ
จากนั้นพ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.คอหงส์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.คอหงษ์ ให้นำตัว นายตั้ม มาทำการสอบสวนทันที เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงบ้านก็พบว่านายตั้มกำลังเตรียมตัวจะหลบหนี ภายหลังการสอบสวน นายตั้ม ให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา อนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นที่ไม่ใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของเด็ก และจะคุมตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดสงขลา ในวันที่ 12 พ.ค.65 พร้อมคัดค้านการประกันตัว
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า ขอบคุณ พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.คอหงส์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คอหงษ์ ที่ทำงานอย่างรวดเร็ว และฝากถึงพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่านให้ดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด อย่าไว้ใจใครง่ายๆ และปล่อยเด็กอยู่กับคนอื่นตามลำพังเพราะอาจเกิดเหตุร้ายได้
