เชฟสาวร้อง”ปวีณา”ถูกแฟนคบกันได้ 2 เดือนตบตีจนสาหัสพาแจ้งความดำเนินคดี

0
451

วันที่ 3 ต.ค.66 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี คลองเจ็ด จ.ปทุมธานี น.ส.เก๋ (นามสมมติ) สาวระนองวัย 27 ปี เดินทางมากับพี่สาว ร้อง “ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ” ถูกแฟนที่คบหากันได้เพียง 2 เดือน เมาเหล้าทำร้ายบาดเจ็บเป็นประจำ ล่าสุดใช้เสาเหล็กกางเต้นท์มัดรวมกันหลายท่อนตีที่ใบหน้าและลำตัว เตะที่ใบหน้า ใช้อิฐมวลเบาทุบทีศรีษะและใบหน้าจนสลบแล้วใช้น้ำราดให้ตื่นและทำร้ายต่อสลบไป 2 ครั้ง บอบช้ำทั้งตัวยังกักขังไว้ไม่ให้ออกไปไหน 1 อาทิตย์ ยึดโทรศัพท์ไม่ให้ติดต่อกับใคร วันที่ 25 ก.ย. 66 แอบหนีออกมาขอพี่สาวพาไปแจ้งความนำส่งโรงพยาบาล ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี ขอความเป็นธรรมเพราะกลัวแฟนจะกลับมาทำร้ายอีก

น.ส.เก๋ เล่าว่า อาชีพเป็นเชฟ ร้านอาหารอีตาเลียนได้คบหาอยู่กินกับนายเอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ที่รู้จักกันทางเฟสบุ๊ก อาชีพรับเหมาต่อเติม ต่อมาได้มาอยู่กินกับนายเอ ย่านบางพลัด ได้เพียง 2 เดือน ถูกนายเอทำร้าย รวม 4 ครั้ง ล่าสุดถูกทำร้ายวันที่ 17 ก.ย.66 เวลาประมาณ 2 ทุ่ม นายเอกินเหล้าเมา มาหาเรื่องตน จึงมีปากเสียงกัน นายเอใช้เสาเหล็กกางเต้นท์มัดรวมกันหลายท่อน ฟาดเข้ามาที่ใบหน้าและลำตัว ตบ เตะ ต่อย ที่หน้าของตนจนสลบใบหน้าปูดบวม รู้สึกตัวตื่นขึ้นมานายเอก็เตะที่หน้าของตนอีก ใช้อิฐมวลเบาทุบที่ศีรษะ จนสลบไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะนายเอใช้น้ำราดพอฟื้นขึ้นมาก็เตะต่อยอีกจนสลบไปเป็นครั้งที่สองตนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง รู้สึกตัวตื่นเพราะแน่นหน้าอก และอาเจียน นายเอไม่ให้ไปหาหมอ กักขังตนไว้ ตนนอนซมระบมไปทั้งตัว ตั้งแต่วันที่ 17-25 ก.ย.66

จนกระทั่งวันที่ 25 ต.ค.66 นายเอกินเหล้าเมาขาดสติอีก ตนกลัวว่าจะโดนนายเอมาทำร้ายซ้ำ จึงหนีขึ้นรถแท็กซี่มาหาพี่สาวที่ จ.นนทบุรี ด้วยร่างกายสะบักสะบอม เล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่สาวฟัง พี่สาวจึงพาตนไปแจ้งความที่ สน.บางพลัด ในวันที่ 26 ก.ย. 66 ตำรวจนำส่ง รพ.วชิระ นอนรักษาตัวที่บ้านพี่สาว จนกระทั่งวันที่ 3 ต.ค. 66 ได้เดินทางมามูลนิธิปวีณาฯ เกรงว่านายเอจะตามมาทำร้ายจึงขอให้ “ปวีณา” ช่วยติดตามคดี

นางปวีณา รับเรื่อง ได้ประสาน พ.ต.อ.อัครพล จั่นเพชร ผกก.สน.บางพลัด โดยให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายเข้าพบ ผกก.สน.บางพลัด เพื่อเร่งติดตาม คดีให้ได้รับความเป็นธรรม จับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีและประสานกระทรวงยุติธรรม ให้ได้รับเงินเยียวยาต่อไป