เมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 ที่ วัดสายไหม อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี นายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีอธิษฐานจิตหมวกนิรภัย โครงการ SAVE ชีวิต พิชิตจุดเสี่ยง ปทุมธานี โดยมีพระครูโสภณภัทรเวทย์ (หลวงพ่ออ๊อด ปธานิโก) เจ้าอาวาสวัดสายไหม รองเจ้าคณะอำเภอลำลูกกา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ผู้ประกอบพิธี พร้อมด้วยนายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอลำลูกกา นางสาวสุพีพร โมรา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี นายพีระยศ เหมะสิขัณฑกะ ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดปทุมธานี นางสาวสายจิตร์ สินปรุ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารภาคกรุงเทพและปริมณฑล หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี
ทั้งนี้ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด สาขาปทุมธานีและฝ่ายบริหารภาคกรุงเทพฯ จัดกิจกรรม ตามโครงการ SAVE ชีวิต พิชิตจุดเสี่ยง ปทุมธานี เพื่อขับเคลื่อนรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ลดการบาดเจ็บและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุทางถนน โดยใช้เครื่องมือ แอปพลิเคชั่น Traffy Fondue ของจังหวัดปทุมธานี เป็นฐานให้ประชาชน กลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงนักเรียนในโรงเรียนต่าง ๆ ได้ร่วมกันให้ข้อมูลจุดเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงข้อมูลผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมดี มีการสวมหมวกนิรภัยในการขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อใช้ข้อมูลดังกล่าวในการช่วยแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน โดยผู้ที่ร่วมให้ข้อมูลจะมีสิทธิ์ได้รับมอบหมวกนิรภัยที่ผ่านการอธิษฐานจิตในวันนี้
พระครูโสภณภัทรเวทย์ (หลวงพ่ออ๊อด ปธานิโก) เจ้าอาวาสวัดสายไหม ได้เตือนสติประชาชนว่า ทุกคนต้องเวลาขับขี่รถจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกกันน็อคให้เป็นนิสัย เพราะว่าจะปลอดภัย ต้องทำเป็นนิสัย ออกจากบ้านขับขี่ทุกครั้งไม่ว่าใกล้ไกล ต้องสวมกันหัวเรา ไม่ได้สวมกันตำรวจเวลาที่ตำรวจจะจับ และหากเราไม่สวมหมวกกันน็อคแล้วเกิดอุบัติเหตุจนบาดเจ็บ หรือ พิการ นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของคนรอบข้างหรือคนในครอบครัวที่จะต้องรับเราเป็นภาระของเขาหลวงพ่ออยากจะเตือนสติให้ทุก ๆ คน เพราะสตินั้นเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิต เวลาขับรถต้องตั้งอยู่ในความไม่ประมาท การขับขี่รถทุกครั้งต้องสวมหมวกกันน็อคเพื่อความปลอดภัยของเราเอง
ด้านนายพงศธร กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า หมวกกันน็อค ถือเป็นอุปกรณ์ลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางการจราจร การบาดเจ็บที่ศีรษะเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและพิการตามสถิติแล้ว การ ‘เสียชีวิต’ จากการใช้ยานพาหนะสองล้อมีสาเหตุหลักจากการบาดเจ็บที่ศีรษะสูงถึง 88 เปอร์เซ็นต์ โดยประมาณ ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากเลยทีเดียว และในประเทศไทยก็มีความนิยมของการใช้มอเตอร์ไซค์มากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นแปลว่า อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ก็มีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่าหนทางที่จะทำให้สถิติเหล่านี้ลดลงง่าย ๆ เพียงแค่ใส่ ‘หมวกกันน็อค’
