สืบนครบาลบุกจับกรรมการบริษัทหนีหมายจับมาบวชชีหลอกเหยื่อร่วมลงทุน 3,000 ราย มูลค่าเสียหายกว่าพันล้าน

0
440

วันที่ 4 มิถุนายน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หัวหน้าชุด PCT 5 แถลงผลการปฏิบัติงาน นำทีมโดย พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ ,พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.ฯ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.ฯ พร้อมกำลังจับกุม นางพัฒนา อายุ 69 ปี อยู่หมู่ 4 ตำบลอ่างแก้ว อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 79/2565 ลงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จับตัวได้ภายในสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งใน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

พฤติการณ์ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น.ร่วมกับชุด PCT5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกบริษัทแห่งหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ) ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนในการให้บริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage โดยเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนในอัตราสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน คล้ายลักษณะแชร์ลูกโซ่จนเป็นเหตุให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ต่อมาบริษัทฯไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย เข้ามาให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 2,878 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท และยังไม่มาให้การอีก จำนวน 653 ราย

ทั้งนี้ ในส่วนของคดีทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย คือ นายศุภสรร กรรมการบริษัท และประสาน ปปง.ติดตามทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง

ทั้งนี้ ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและหลบหนีโดยไม่สามารถติดตามตัวได้ โดยผู้ต้องหารายดังกล่าว มีหมายจับของ สภ.แม่ทะ ภ.จว.ลำปาง ติดตัวในความผิดเดียวกัน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอต่อศาลเพื่ออนุมัติออกหมายจับ คือ นางพัฒนา เป็นมารดาของนายศุภสรร ซึ่งเป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัท โดยได้หลบหนีหายเข้ากลีบเมฆตั้งแต่หมายจับออกเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล IDMB ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวนางพัฒนา ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยให้ข้อมูลว่า เดิมทีตนเป็นอาจารย์สอนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หลังเกษียณบุตรชายได้ขอนำชื่อตนไปเป็นกรรมการในบริษัท โดยที่ตนไม่ทราบการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าวนั้นแต่อย่างใด ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บวชชีและปฏิบัติธรรมอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม โดยมีอดีตสามีบวชเป็นพระอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเดียวกัน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังผู้กระทำผิดอย่าทำศาสนาต้องมั่วหมอง โดยใช้การหลบหนีคดีมาบวชหรือปฏิบัติธรรม หากสำนึกผิดจริงๆต้องรับโทษทางกฏหมายให้เรียบร้อยก่อน จะไม่ทำให้ศาสนาเสียหาย และหากพบการกระทำผิดหรือขอความช่วยเหลือโปรดแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม.