วันที่ 23 พ.ย.66 บก.สส.สตม. จับกุมนายเอดิ (นามสมมติ) อายุ 63 ปี สัญชาติอิตาลี โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากตร.ได้สั่งการให้ สตม.ดำเนินการ กรณีสำนักงานกลางแห่งชาติตำรวจสากลโรม มีหนังสือขอความร่วมมือมายังกองการต่างประเทศ เพื่อให้สืบสวนติดตามจับกุมนายเอดิ (นามสมมติ) อายุ 63 ปี สัญชาติอีตาลี ผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการอิตาลี ต้องหาว่ากระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ และเป็นบุคคลตามประกาศตำรวจสากลสีแดง และได้หลบหนีมาอยู่ในประเทศไทย เพื่อส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐอิตาลี พฤติการณ์กระทำผิด คือ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.53 ในสาธารณรัฐอิตาลี นายเอดิได้ร่วมกับพวกปล้นคู่สามีภรรยาสูงอายุซึ่งเป็นชายตาบอดและหญิงพิการ โดยบุกรุกเข้าไปในบ้านของผู้เสียหาย ข่มขู่และใช้ความรุนแรงกับผู้เสียหาย จากนั้นได้ขโมยเอาเงินสด จำนวน 28,000 ยูโร (ประมาณ 1,077,000 บาท) และเพชรพลอยสร้อยข้อมือ นาฬิกา และคลิปหนีบเนคไท พร้อมสมุดบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้เสียหายทั้ง 2 คนไป บก.สส.สตม. จึงมอบหมายให้ กก.1 บก.สส.สตม. ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายเอดิ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ก.พ.63 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผ.30 และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวต่อไปด้วยเหตุผล ใช้ชีวิตบั้นปลาย ถึงวันที่ 30 ม.ค.66 ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว จึงสืบสวนติดตามหาตัวนายเอดิ จนกระทั่งทราบว่า นายเอดิ ได้ไปพักอาศัยในคอนโดมิเนียมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้ร่วมกับ ตม.จว.ชลบุรี บก.ตม.3 ไปตรวจสอบ พบนายเอดิ จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และจับกุมส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกคดี ตำรวจ บก.ตม.6 จับกุมนายนาโกโร (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี สัญชาติรัสเซีย โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ควนโดน จว.สตูล ดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อ 21 พ.ย.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สตูล ได้รับแจ้งจากประชาชน พบบุคคลต่างชาติท่าทางมีพิรุธบริเวณตลาดชายแดน ต.วังประจัน อ.ควนโดน จว.สตูล เจ้าหน้าที่สืบสวนซึ่งกำลังตั้งด่านตรวจรถยนต์ที่กำลังจะออกนอกประเทศไปยังมาเลเซีย จึงได้นำกำลังไปตรวจพบบุคคลต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อพบนายนาโกโร จึงขอตรวจหนังสือเดินทางพบว่า การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดของนายนาโกโรสิ้นสุดลงแล้ว จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และจับกุมส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ควนโดน จว.สตูล ดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายนาโกโร ยังเป็นบุคคลตามหมายจับตำรวจสากล (Red Notice) พฤติการณ์การกระทำความผิด คือ เมื่อประมาณเดือน ต.ค.61 ถึง ก.ค.63 ที่เมืองมอสโกและเมืองบรานค์ สาธารณรัฐรัสเซีย นายนาโกโร สมาชิกกลุ่มอาชญากรรมขนาดใหญ่ในรัสเซีย ได้รับดำเนินธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยรับ ฝาก ถอน โอน และเก็บรักษาเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้บริการกับบุคคล กลุ่มบุคคล องค์กรที่ได้เงินมาโดยผิดกฎหมายและไม่ต้องการแสดงตนในการทำธุรกรรม โดยได้รับค่าบริการในอัตรา 10% ของยอดเงินที่ใช้บริการ ซึ่งนายนาโกโรรับหน้าที่เป็นผู้หาลูกค้ามาใช้บริการดังกล่าว มูลค่าเงินหมุนเวียนผิดกฎหมาย จำนวน 1,643 ล้านบาท ผลกำไรประมาณ 164 ล้านบาท
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม
พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง