ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม.พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง รอง ผบก.กต.10 ปฏิบัติราชการ บก.ตม.3 พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี พ.ต.ท.รัฐไกร ประยูรศร รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 และ พ.ต.ท.วิรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
คดีแรก1.ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ กก.2 บก.ปอศ. จับกุม Mr.Wang (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาที่ 60/2567 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเคลื่อนย้ายของออกไปจากเขตปลอดอากรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย จับกุมภายในบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จว.ชลบุรี พฤติการณ์แห่งคดี Mr.Wang ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัทแห่งหนึ่งได้ร่วมกันกับพวกนำสินค้าเบ็ดเตล็ด อาทิเช่น กระเป๋า ผ้าพันคอ ชุดผ้าปูที่นอน กรอบโทรศัพท์ เก้าอี้ กล่องพลาสติก โคมไฟ ไม้เซลฟี่ ข้าวโพด (ป๊อบคอร์น) ฯลฯ เข้ามาในราชอาณาจักร ตามใบขนสินค้าขาเข้า จำนวน 31 ฉบับ โดยสำแดงการใช้สิทธิประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อนำเข้าไปในเขตปลอดอากร จำนวน 31 ฉบับ เป็นใบขนสินค้าสั่งการตรวจ “ให้เปิดตรวจ” เพื่อนำไปทำการตรวจปล่อยที่เขตปลอดอากรเอ็มที ฟรีโซน โดยวิธีการมัดลวด และพนักงานศุลกากร ที่กำกับดูแลเขตปลอดอากรได้บันทึกการตรวจรับของดังกล่าวเข้าไปเก็บในเขตปลอดอากรแล้ว แต่ในระหว่างวันที่ 16-17 ธันวาคม 2562 พนักงานศุลกากรได้เข้าทำการตรวจสอบหลังการตรวจปล่อย ณ เขตปลอดอากร เอ็มที ฟรีโซน ในบริษัทดังกล่าว พบข้อเท็จจริงว่าสินค้าเบ็ดเตล็ดที่บริษัทฯ ได้นำเข้ามาตามใบขนสินค้าขาเข้าทั้ง 31 ฉบับนั้น ไม่ได้มีการเก็บรักษาไว้หรือคงเหลืออยู่ในเขตปลอดอากร เอ็มที ฟรีโซน
จากการตรวจสอบข้อมูลการนำเข้าและส่งออกของบริษัทฯ จากระบบ CUSTOMS INFORMATION SYSTEM (CIS) ไม่พบว่าบริษัทฯได้มีการจัดทำใบขนสินค้าขาเข้าโอนย้ายชำระภาษีอากร (ประเภท P) เพื่อนำของออกจากเขตปลอดอากรเพื่อใช้หรือจำหน่ายในราชอาณาจักร และไม่มีการจัดทำใบขนสินค้าขาออก เพื่อส่งของออกไปนอกราชอาณาจักร อีกทั้งไม่พบหลักฐานการผ่านพิธีการศุลกากรหรือหลักฐานการชำระภาษีอากรสำหรับของดังกล่าวเพื่อนำของออกจากเขตปลอดอากรในกรณีอื่นใดโดยได้ประเมินราคาและค่าภาษีอากร สินค้าตามใบขนสินค้าขาเข้า จำนวน 31 ฉบับ ดังกล่าวมีราคารวมทั้งสิ้น 15,337,963.62 บาท อากรขาเข้ารวม 2,701,946.79 บาท ภาษีมูลค่าเพิ่มรวม 1,262,793.72 บาท ซึ่งพนักงานศุลกากรได้แจ้งให้บริษัทฯ จัดส่งเอกสารเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงในประเด็นดังกล่าวแล้ว แต่บริษัทฯ ก็ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อพนักงานศุลกากรเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงได้ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวของบริษัทฯ เป็นความผิดฐานเคลื่อนย้ายของออกไปจากเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร เมื่อบริษัทฯ ได้รับทราบผลการตรวจสอบแล้ว มิได้แจ้งความประสงค์จะขอทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร แต่บริษัทฯ เพิกเฉย ไม่มาติดต่อขอทำความตกลงระงับคดีในชั้นศุลกากร กรมศุลกากรจึงร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทฯ และ Mr.Wang รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งในฐานะนิติบุคคลและฐานะส่วนตัว หลังจากที่ศาลจังหวัดพัทยาได้ออกหมายจับดำเนินคดี
2.ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกับ กก.2 บก.ทท.1 จับกุม MR.LIU (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สัญชาติไต้หวัน โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม พื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี พฤติการณ์พบว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติไต้หวัน ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว Overstay)และมักจะลักลอบกบดานในพื้นที่ กรุงเทพฯ และ จว.ชลบุรี จึงได้ตรวจสอบข้อมูลไปยังสำนักเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย (ไต้หวัน) ทราบว่า MR.LIU เป็นบุคคลตามหมายจับของทางการไต้หวันในความผิด ฉ้อโกง มีพฤติการณ์เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จว.ชลบุรี ดำเนินคดี
3.ตม.จว.สมุทรสาคร จับกุม นางมิ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้, ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ด้วยประการใด ๆ ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย จับกุมบ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร จากการสืบสวนทราบว่า มีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมามีพฤติการณ์ลักลอบขายสินค้าหนีภาษีทางช่องทางออนไลน์ จึงได้สืบสวนข้อมูลในเชิงลึก พบว่าคนต่างด้าวพักอาศัยอยู่ในบ้านพักย่าน ถ.เจษฎาวิถี ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร โดยมีการไลฟ์สดและโพสต์ขายสินค้าทางเฟซบุ๊ก ซึ่งตัวสินค้ามีความผิดทางกฎหมาย จึงขอหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นจับกุมนางมิ สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง เป็นกลุ่มสินค้าประเภทอาหารเสริม วิตามิน น้ำมันหรือสเปรย์ฉีดเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งไม่มีฉลากภาษาไทย และเครื่องหมาย อย. ร่วม 200 รายการ พบใบอนุญาตทำงานระบุประเภท กรรมกร แต่มาลักลอบขายสินค้าออนไลน์ และไม่ได้ทำงานตามประเภทที่ได้รับอนุญาตไว้ตามกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดี