สตม.รวบยกแก๊งปล้นทรัพย์นักเทรดอังกฤษ-อีกรายจับแก๊งชาวเมียนมาหลอกเหยื่อร่วมลงทุนซื้อขายทองคำสูญเงินมูลค่ากว่า 3 ล้าน

0
67

วันที่16 ก.ค.67 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม.,พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

กก.2 บก.สส.สตม. จับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ จำนวน 3 ราย ดังนี้ 1. MR.ABDULLAHI (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สัญชาติเดนมาร์ก 2. MR.MOHAMED (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี สัญชาติบริติช 3. MR.SAEED (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สัญชาติบริติช ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทำความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นโดยมีอาวุธ ให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น, ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย จับกุม MR.ABDULLAHI ที่หน้าโรงแรมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี MR.MOHAMED และ MR.SAEED จับที่ POOLVILLA ในย่านถนนเทพประสิทธิ์ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี
จากกรณีได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2567 เวลาประมาณ 02.00 น. ผู้เสียหายได้ถูก MR.ABDULLAHI พร้อมกับพวกรวม 5 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกายและ เอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป ได้แก่ นาฬิกา ยี่ห้อ Audemars piguet 1 เรือน นาฬิกา ยี่ห้อ Rolex 1 เรือน และทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท เหตุเกิดที่ ห้องพักในแมนชั่นย่าน ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติออกหมายจับ นาย MR.ABDULLAHI, MR.MOHAMED, MR.SAEED, MISS SUMYA (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี สัญชาติบริติช และหญิงชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ กก.2 บก.สส.สตม. จึงได้นำข้อมูลผู้ต้องหาบันทึกไว้ในบัญชีเฝ้าดูในระบบสารสนเทศ ตม. และทำการสืบสวนติดตามหาตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย จนทราบว่า MR.ABDULLAHI, MR.MOHAMED และ MR.SAEED หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จว.ชลบุรี จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.คลองตัน ไปสืบสวนหาตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จนกระทั่งทราบว่า MR.ABDULLAHI พักอาศัยที่โรงแรมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และ MR.MOHAMED กับ MR. SAEED พักอาศัยที่ POOLVILLA ในย่านถนนเทพประสิทธิ์ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงเข้าทำการจับกุมดังกล่าว
นอกจากนี้ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ยังได้ตรวจพบว่า MISS SUMYA ผู้ต้องหาตามหมายจับจะเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย จากการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางพบช่อดอกกัญชาบรรจุในถุงสุญญากาศ ขนาด 500 กรัม จำนวน 50 ห่อ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 25 กิโลกรัม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศุลกากร และ ป.ป.ส. ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมในความผิดฐาน พยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) โดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตามกฎหมายศุลกากร มาตรา 242 มาตรา 166 มาตรา 167 และมาตรา 252 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน จะได้ดำเนินการตามหมายจับต่อไป

อีกราย จนท.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุม MR.U WIN (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ จ.79/2567 ลงวันที่ 14 พ.ค.2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย จับกุมบริเวณหน้าโรงแรมย่าน ถนนประดิพัทธ์ แขวงและเขตพญาไท
กรุงเทพฯ จากกรณีที่ แก๊งชาวเมียนมา ประกอบด้วย MR.U WIN (นามสมมติ), MR.THAW TE (นามสมมุติ), MRS.CHO LIN อ้างว่าเป็นนักธุรกิจซื้อขายทองคำ ในประเทศเมียนมา มีฐานะร่ำรวยมาก ต้องการซื้อทองคำจำนวนมากเพื่อนำไปขายต่อ ได้พูดจาหว่านล้อมผู้เสียหายพร้อมทั้งยืนยันให้ความเชื่อมั่น หลังจากนั้นได้หลอกลวงให้ผู้เสียหาย
เป็นผู้ติดต่อประสานงานในการซื้อทองคำจากคลังทองคำที่ห้างทองในย่านเยาวราช และเพื่อเป็นหลักประกันว่ามีทองคำในคลังทองคำอยู่จริง MR.U WIN กับพวกได้หลอกลวงผู้เสียหายให้วางเงินเป็นหลักประกันทองคำดังกล่าว และยืนยันว่า หากคลังทองคำขายทองคำให้จะคืนเงินที่ผู้เสียหายวางเป็นหลักประกันคืน จนผู้เสียหายหลงเชื่อส่งมอบเงินหลักประกันให้จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,135,000 บาท

ภายหลังคลังทองคำตกลงจะขายทองให้กับกลุ่มดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฏว่า MR.U WIN กับพวก ไม่มีเงินซื้อทองคำ และไม่คืนเงินที่ผู้เสียหายได้วางไว้เป็นหลักประกันผู้เสียหายทวงถามให้คืนเงิน โดยไม่สามารถติดต่อ MR.U WIN กับพวก ได้อีกเลย ซึ่งทราบว่ากลุ่มแก๊งชาวเมียนมา ทั้ง 3 ราย ได้หลบหนีเดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้วผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ซึ่งต่อมาพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลแขวงดุสิตออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 3 รายกก.ปอพ.บก.สส.สตม. จึงได้ประสานข้อมูลกับ สน.พญาไท เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา จนกระทั่งทราบว่า MR.U WIN หนึ่งในแก๊งชาวเมียนมาดังกล่าวได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยและได้หลบหนีหมายจับไปพักอาศัยอยู่ในท้องที่ จว.นนทบุรี และในท้องที่ บก.น.2 จึงได้สืบสวนติดตามจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไทดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือจะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป