รวบขาใหญ่บังกลาเทศ (เครือข่ายอัสราฟ) เปิดออฟฟิศบังหน้าซุกเพื่อนร่วมชาติก่อนลักลอบส่งทำงาน

0
340

พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม. พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา, พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วศรีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6 พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชูวงศ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม. พ.ต.ท.กฤตกรอิชณน์ คงขำ สว.ตม.จว.ปัตตานี ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นบุคคลในขบวนการขนแรงงานบังคลาเทศผิดกฎหมาย จำนวน 2 ราย ดังนี้
รายที่ 1 ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.1 บก.สส.สตม. กก.ปอพ.บก.สส.สตม. กก.สส.บก.ตม.6 ตม.จว.ปัตตานี, กก.6 บก.ปคม. สภ.ควนมีด และ ส.รน.2 กก.6 บก.รน. จับกุม นายอัสราฟ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี สัญชาติบังกลาเทศ บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 481/2566 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ในฐานความผิด “ร่วมกัน ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่”จับกุมบริเวณริมถนนปากน้ำ อ.เมืองปัตตานี จว.ปัตตานี นำตัวส่ง พงส.สภ.ควนมีด จว.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
รายที่ 2 ตม.จว.นราธิวาส ร่วมกับ กก.1 บก.สส.สตม., กก.ปอพ.บก.สส.สตม. กก.สส.บก.ตม.6, ตม.จว.ปัตตานี, กก.6 บก.ปคม. สภ.เมืองนราธิวาส และ กก.7 บก.รน.จับกุม นายอะบู (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สัญชาติบังกลาเทศ บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 1073/2566 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ในฐานความผิด “เป็นผู้ให้ที่พักพิง ช่วยเหลือ หรือ ช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม”จับกุมบริเวณริมถนนปากน้ำ อ.เมืองปัตตานี จว.ปัตตานี นำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองนราธิวาส จว.นราธิวาส ดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีนี้สืบเนื่องจากห้วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา ตม.จว.ปัตตานี ตม.จว.นราธิวาส และกก.สส.บก.ตม.6 จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติบังกลาเทศหลบหนีเข้าเมืองจำนวนรวม 41 คน รวม 5 คดี เหตุเกิดต่างท้องที่กัน พร้อมขยายผลการจับกุมดำเนินคดีผู้ให้การช่วยเหลือ จำนวน 10 คน (เป็นคนสัญชาติไทย 8 คน คนสัญชาติบังกลาเทศ 1 คน คนสัญชาติปากีสถาน 1 คน) จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรมพบว่า คนต่างด้าวทั้งหมดลักลอบเข้าราชอาณาจักรมาทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณจังหวัดสระแก้ว หลังจากนั้นจะนั่งรถประจำทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งให้นายอะบู คนต่างด้าวสัญชาติบังกลาเทศลูกน้องนายอัสราฟ ซึ่งถูกจับกุมแล้ว ทำหน้าที่จัดหายานพาหนะมาส่งให้กลุ่มคนไทยผู้ที่รอรับช่วงต่อที่จังหวัดสงขลา นำพาออกทางช่องทางธรรมชาติบริเวณจังหวัดนราธิวาสเพื่อไปลักลอบทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนใช้เวลาเกือบ 1 ปี ในการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งทราบว่า นายอัสราฟ ประกอบอาชีพนักธุรกิจบริษัทนำเข้า-ส่งออกสินค้าต่างประเทศ แต่เบื้องหลังทำหน้าที่ติดต่อหาคนต่างด้าวทั้งหมดกับนายหน้าที่ประเทศบังกลาเทศและประเทศกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางในประเทศไทย ร่วมกับผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้เก็บค่าหัว 100,000-150,000 บาท/คน พบว่าเครือข่ายอัสราฟ มีเงินหมุนเวียนในขบวนการกว่า 117 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับนายอัสราฟฯ ในคดีความผิดข้อหา “ร่วมกัน ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่”ต่อมาสามารถจับกุมนายอัสราฟฯ ได้ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และได้นำตัวส่ง พงส.สภ.ควนมีด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง