พระธรรมรัตนาภรณ์เป็นประธานมอบรางวัลและทุนการศึกษาโรงเรียน-ชั้นเรียนต้นแบบศีลธรรม เพื่อเยาวชนปทุมธานี

0
679

วันที่  20 กรกฎาคม 2565 ณ หอประชุมฯ เฉลิมพระเกียรติฯ วัดเขียนเขต พระอารามหลวง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พระเดชพระคุณพระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง ประธานอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (ส่วนกลาง) ฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยนายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายกปฏิบัติหน้าที่แทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานฆราวาส ในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร และทุนการศึกษา “โครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่สถานศึกษา เพื่อฟื้นฟูศีลธรรมโลก โรงเรียนรักษาศีล 5 จังหวัดปทุมธานี” ประจำปีการศึกษา 2564

โดยมีสถานศึกษาที่ผ่านการประเมินผลโครงการฯ เข้ารับการประกาศเกียรติคุณรวมจำนวนทั้งสิ้น 31 โรงเรียน แบ่งเป็นรางวัลโรงเรียนต้นแบบศีลธรรมดีเด่นระดับเงิน 8 โรงเรียน, รางวัลโรงเรียนต้นแบบศีลธรรม 8 โรงเรียน และรางวัลชั้นเรียนต้นแบบศีลธรรม 2 โรงเรียน

 ภายในงานฯ ยังได้รับเกียรติจากผู้บริหารองค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่ร่วมขับเคลื่อนดำเนินงานโครงการฯ อาทิ คุณกฤษณะ เลิศวิชานันท์ ศึกษาธิการจังหวัดปทุมธานี, คุณฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ วัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี, คุณพิมพ์วรัชญ์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี คุณนิภาวรรณ กอพัฒนธีรวุธ นายกพุทธสมาคมจังหวัดปทุมธานี, คุณสันติ รุ่งสุขพลากร ประธานชมรมพุทธศาสตร์สากล คุณองอาจ ธรรมนิทา กรรมการเลขานุการชมรมรักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ปทุมธานี ในอุปถัมภ์พระธรรมรัตนาภรณ์ ผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา เข้าร่วมงานฯ

สำหรับ“โครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่สถานศึกษา เพื่อฟื้นฟูศีลธรรมโลก โรงเรียนรักษาศีล 5 จังหวัดปทุมธานี” ดำเนินงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 โดยเริ่มขับเคลื่อนดำเนินงานมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 ซึ่งได้รับการสนับสนุนในการขับเคลื่อนดำเนินงานจากองค์กรภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับการอุปถัมภ์จากพระเดชพระคุณพระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง ประธานอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (ส่วนกลาง) ฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม มีวัตถุประสงค์เพื่อสนองตามนโยบายของมหาเถรสมาคมด้านการส่งเสริมการรักษาศีล 5 ในหมู่ประชาชน โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการฝึกอบรมผ่านกระบวนการเรียนรู้และพัฒนานิสัยบัณฑิตนักปราชญ์ด้วย หลักความดีสากล 5 ประการ คือ ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความสุภาพนุมนวล ตรงต่อเวลา และจิตตั้งมั่น ตามแนวทางของพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบไปด้วย 7 บทฝึกในชีวิตประจำวัน คือ บทฝึกการเดิน บทฝึกการถอดและวางรองเท้า บทฝึกการทำความเคารพปฏิสันถารคุณครู บทฝึกการทำความสะอาดโต๊ะเก้าอี้ บทฝึกการจัดระเบียบการวางสิ่งของเครื่องใช้ บทฝึกการนั่งสมาธิ และบทฝึกการสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตนสูตร โดยมีเป้าหมายสำคัญ เพื่อส่งเสริมสนับสนุนบูรณาการนโยบายด้านคุณธรรมจริยธรรมทั้งของมหาเถรสมาคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สู่ภาคปฏิบัติ อีกทั้ง ยังมุ่งเน้นในการช่วยเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ในห้องเรียน และสร้างผู้นำเยาวชนต้นแบบด้านศีลธรรมให้เป็นผู้ที่มีค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการอันเป็นพื้นฐานของพุทธศาสนิกชนที่แท้จริง

พระเดชพระคุณพระธรรมรัตนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พระอารามหลวง ประธานอนุกรรมการโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข (ส่วนกลาง) ฝ่ายสาธารณูปการของมหาเถรสมาคม กล่าวว่า “ขออนุโมทนาบุญขอบคุณในกุศลเจตนาที่ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดำเนินงานกิจกรรมเพื่อการเผยแผ่หลักศีล 5 ทางพระพุทธศาสนาในสถานศึกษา ซึ่งเป็นไปตามความมุ่งหมายของมหาเถรสมาคม เพื่อมุ่งเน้นให้เยาวชนได้ฝึกนิสัยแห่งความเป็นบัณฑิตนักปราชญ์ผ่านกิจวัตรประจำวันในห้องเรียน อันเป็นการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมรณรงค์การรักษาศีล 5 และวิถีวัฒนธรรมเชิงพุทธ ส่งเสริมให้เยาวชนมีศีล มีธรรม นำสังคมสู่สันติสุข ซึ่งการปลูกฝังศีลธรรมให้แก่เยาวชนในสภาพสังคมปัจจุบันเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนมาก จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการผลักดันขับเคลื่อนศีลธรรมให้แก่เยาวชน อีกทั้ง โครงการฯ นี้ เป็นการขับเคลื่อนด้วยพลัง “บวร” ทั้ง “วัด ประชา รัฐ” ร่วมด้วยช่วยกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ในการพัฒนาจิตและปัญญาตามแนวทางของพระพุทธศาสนา ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของโครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข หากทุกภาคส่วนร่วมด้วยช่วยกันต่อยอดพัฒนาโครงการฯ เป็นสมานฉันท์เช่นนี้ต่อไป เชื่อมั่นว่าการพัฒนาเยาวชนของจังหวัดปทุมธานีให้มีอัตลักษณ์ ยิ้มง่าย ไหว้สวย รวยปิยวาจา มีสมาธิ เป็นผู้ใฝ่รู้ใฝ่ดี มีความสามารถ เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติจะประสบผลสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไปอย่างแน่นอน ขออนุโมทนา”