ฝันสลาย!เหยื่อกว่า 40 ราย ร้อง “ปวีณา” ช่วยถูกสาวแสบกับคู่หูหลอก อ้างจะพาไปทำงานเกษตร งานฟาร์มเก็บไส้เดือนที่ประเทศแคนาดา สูญเงินรายละ 1.7แสนบาท

0
15

จัดหางานทิพย์!! ผู้เสียหายกว่า 40 ราย ร้อง “ปวีณา” ช่วย ถูกสาวแสบกับคู่หูหลอก อ้างจะพาไปทำงานเกษตรที่ประเทศแคนาดา รายได้อู้ฟู้วันละ 4,500 บาท เหยื่อหลงเชื่อวาดฝันอดทนไปทำงาน 2 ปีกลับมาตั้งตัวได้ ยอมกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่าดำเนินการคนละ 150,000-170,000 บาท สุดท้ายโดนหลอกเสียหายกว่า 6 ล้าน “ปวีณา” ประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้การ ปคม. ก่อนพาผู้เสียหายแจ้งความเร่งติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

ที่มูลนิธิปวีณาฯ จว.ปทุมธานี : วันที่ 8 ธ.ค.67 ผู้เสียหาย 40 กว่ารายจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวมตัวเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกสาวแสบกับคู่หูอ้างเป็นนายหน้าจัดหางานหลอกไปทำงานภาคเกษตร ที่ประเทศแคนาดา อ้างรายได้ดีวันละ 3,800-4,500 บาท หลงเชื่ออุตส่าห์กู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่าดำเนินการ สูญเงินกันคนละ 150,000-170,000 บาท สุดท้ายถูกบ่ายเบี่ยงอ้างติดปัญหาต่างๆ ให้รอจนร่วมปีก็ยังไม่พาไปทำวีซ่า หลังตรวจสอบพบงานที่แคนาดาไม่มีอยู่จริงจึงรู้ว่าถูกหลอก ต้องเป็นหนี้ท่วมหัว ส่วนนายหน้าเชิดเงินหนีลอยนวล ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือพาไปแจ้งความเพื่อให้ตำรวจเร่งติดตามตัวการมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท

นายดำรงศักดิ์ อายุ 43 ปี ชาวจ.สมุทรปราการ ตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ปัจจุบันตนทำงานโรงงาน แต่รายได้ไม่พอรายจ่ายเลี้ยงดูครอบครัว ช่วงเดือนก.ย.2566 จึงได้มองหางานในโซเชียล ได้พบผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อ “หนูนา” โพสต์เชิญชวนคนไทยไปทำงานที่ประเทศแคนาดา เป็นงานถูกกฎหมาย ผ่านวีซ่า work permit 2 ปี เป็นงานฟาร์มเก็บไส้เดือน รายได้ต่อวัน 3,800 – 4,500 บาท (ไม่รวมโอที) ตนเห็นว่ารายได้ดีจึงแชตติดต่อไป ซึ่งทางหนูนาได้อ้างว่าเคยส่งคนไปทำงานที่เกาหลีเก็บเงินกลับมาตั้งตัวได้ดูน่าเชื่อถือ และบอกว่ามีคนติดต่อมาอยากไปแคนาดาหลายคนซึ่งสามารถพาไปได้ในจำนวนจำกัด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ 150,000 บาท ถ้าใครที่ติดต่อมาไม่รีบจองอาจจะพลาดโอกาสเพราะรับแค่ 20 คน ตนหลงเชื่อจึงรีบโอนเงินก้อนแรกไป 50,000 บาท

จากนั้นช่วงเดือนต.ค.66 หนูนาก็นัดให้ตนไปหาที่ออฟฟิศในซอยรามคำแหง 166 เพื่อเซ็นเอกสารและจ่ายค่าดำเนินการอีก 100,000 บาท และนัดให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งพร้อมกับคนที่จะเดินทางไปแคนาดาด้วยประมาณ 20 คน และจ่ายค่าตรวจร่างกายคนละ 6,900 บาท ซึ่งเขาบอกว่าถ้าใครที่ตรวจร่างกายแล้วไม่ผ่านจะคืนเงินให้ทั้งหมด

หลังจากนั้นหนูนาก็บอกให้รอ ถัดมาอีกเดือนเขาก็โทรมาบอกว่าตนมีประวัติเคยถูกจับเล่นการพนันจะต้องจ่ายค่าลบประวัติอีก 20,000 บาท ตนก็โอนให้ไป เวลาจ่ายเงินสดก็จ่ายให้หนูนา หรือโอนเข้าบัญชีก็เป็นชื่อของหนูนาเช่นกัน รวมที่ตนจ่ายไปทั้งหมด 170,000 บาท รอเรื่อยมาก็ไม่ได้ไปทำวีซ่าเสียที พอตนโทรถามก็อ้างติดขัดปัญหาต่างๆ นานา จนผ่านไปร่วมปี เดือนก.ย.2567 ตนสงสัยจึงร่วมกับผู้เสียหายรายอื่นๆ ตรวจเช็กชื่อบริษัท นายจ้างที่แคนนาดา ปรากฏไม่มีอยู่จริงจึงรู้ว่าถูกหลอก

ตนและผู้เสียหายหลายคนเครียดจัดเพราะต้องติดหนี้สินญาติพี่น้องและนายทุนเงินกู้ที่ไปหยิบยืมมา บางคนเอาที่นา เอาบ้าน รถยนต์ไปจำนองเพื่อหาเงินมาจ่าย หวังว่าได้เดินทางไปทำงานจะมีเงินมาใช้หนี้แต่สุดท้ายต้องมาเจอแบบนี้แทบสิ้นเนื้อประดาตัว ขณะที่หนูนา กับนายเอ (นามสมมุติ) ที่อ้างเป็นตัวแทนบริษัทจัดหางานกลับเชิดเงินกันไป เมื่อทวงถามหนูนายังบอกถ้าใครมีปัญหาท้าให้ไปแจ้งความและไปฟ้องร้องได้เลย หรือถ้าจะไปร้องกระทรวงแรงงานก็ไม่กลัวเพราะมีผู้ใหญ่ที่รู้จักหนุนหลังอยู่ พวกตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงรวมตัวกันมาร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

หลังรับเรื่อง นางปวีณา กล่าวว่า กรณีหลอกให้ไปทำงานมีมานานแล้วและยังคงมีการหลอกมาอยู่ตลอด ผู้เสียหายหลงเชื่อต้องไปกู้เงินมาทำให้เป็นหนี้เป็นสิน สำหรับเคสนี้ผู้เสียหาย 40 กว่ารายที่ถูกหลอกต้องเดือดร้อน จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่ต้องการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน อย่าหลงเชื่อไม่ว่าเขาจะโฆษณาอย่างไร หากอ้างว่ารายได้ดีเกินจริงย่อมเป็นไปไม่ได้ ก่อนตัดสินใจให้ตรวจสอบกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานให้แน่ใจก่อน จากนี้จะประสาน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ผู้การ ปคม.) และมอบหมายให้ นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการมูลนิธิปวีณาฯ พาผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เพื่อเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีต่อไป.