วันที่ 23 เม.ย. 65 พี่สาวชาวยโสธรร้อง “ปวีณา” น้องสาววัย 40 ปี ถูกสามีหนุ่มซ้อมจนตับแตก ปอดฉีก ซี่โครงหัก อาการโคม่า แพทย์ระบุถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจจะไม่รอด ขอช่วยติดตามคดี “ปวีณา” ประสาน ผกก.สภ.เมืองยโสธร จับกุมสามีโหดดำเนินคดี สอบสวนให้การรับสารภาพ ตำรวจแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายสาหัส ก่อนส่งฝากขังแล้ววันนี้
สืบเนื่องจากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้รับร้องทุกข์จากพี่สาวรายหนึ่ง แจ้งว่า นางน้อย อายุ 40 ปี น้องสาว อยู่กินกับนายต่าย อายุ 34 ปี (ทั้งสองนามสมมุติ) มาประมาณ 2 ปี อาศัยอยู่บ้านเช่าในเมืองยโสธร ที่ผ่านมา นายต่ายมักจะทำร้ายร่างกายน้องสาวเป็นประจำ น้องสาวต้องหนีกลับบ้านมาหลายครั้ง แต่พอดีกันก็กลับไปอยู่ด้วยกันอีก
กระทั่งกลางดึกคืนวันที่ 14 เม.ย. เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวน้องสาวส่งโรงพยาบาล และนายต่ายก็แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่า นางน้อยหกล้มในห้องน้ำ ซึ่งแพทย์ตรวจร่างกายพบว่า ตับแตก ปอดฉีก ซี่โครงหัก อาการสาหัส คาดสาเหตุมาจากถูกทำร้ายร่างกาย พี่สาวจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองยโสธร ตอนนี้น้องสาวนอนไม่ได้สติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แพทย์แจ้งว่าถ้าถอดเครื่องช่วยหายใจเมื่อไหร่จะเสียชีวิตทันที ครอบครัวต้องการจะดำเนินคดีกับนายต่ายให้ถึงที่สุด ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.มังกร กวีกรณ์ ผกก.สภ.เมืองยโสธร ให้พี่สาวและแม่ของนางน้อยไปพบที่ สภ.เมืองยโสธร ในวันที่ 22 เม.ย. โดย พ.ต.อ.มังกร ได้มอบหมาย พ.ต.ท.ยุทธนา โพธิทอง รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองยโสธร ควบคุมคดี สอบปากคำญาติเพิ่มเติม ก่อนจะส่งชุดสืบสวนไปนำตัวนายต่าย จากห้องเช่าเพื่อสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายต่าย ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำร้ายร่างกายนางน้อยจริง ที่แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่านางน้อยหกล้มในห้องน้ำนั้นเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อปกปิดความผิด เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ก่อนจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดยโสธรทันที