วันที่ 6 กันยายน 2565 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไป แม่สอด จ.ตาก พบ พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก. ร.14 หลังจากแจ้งประสานความร่วมมือทหาร ตำรวจแม่สอด เข้าช่วยเหลือหญิงสาวไทยวัย 16 ปี ถูกหลอกไปค้าประเวณีในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยทางทหารไทยเจรจา ขอความร่วมมือกับทหารเมียนมาเข้าค้น ร้านคาราโอเกะ แฝงค้าประเวณี พาเด็กไทยนั่งเรือข้ามฟากมายังไทยปลอดภัยแล้ว ภายหลัง แม่เด็กร้อง ปวีณา ขอให้ช่วยเหลือลูกถูกขายช่องในเมียวดี เมียนมา ลูกบอกแม่ “ทรมานอยากตาย”
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 65 นางเอ อายุ 42 ปี และนายบี อายุ 41 ปี (นามสมมุติ) สองสามีภรรยาชาว จ.บุรีรัมย์ เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี ว่า น.ส.นุช (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ถูกเพื่อนชื่อ ออม ที่ได้รู้จักทางเฟซบุ๊กไม่กี่เดือน ชักชวนไปเที่ยว จว.ตาก น้องนุช ลูกสาว อยู่กับยายที่ จ.บุรีรัมย์ ส่วนพ่อแม่มาทำงานก่อสร้างที่ จว.สระบุรี ต่อมาวันที่ 29 ส.ค. 65 ลูกสาวแชทมาบอกแม่ว่า พี่ ออม ชวนไปเที่ยว จว.ตาก แต่กลับพาข้ามไปประเทศเมียนมา ให้ทำงานที่ร้านคาราโอเกะและบังคับให้ค้าประเวณี ลูกแชทมาว่า “อยากตาย” ทนไม่ไหวแล้ว ทุกข์ทรมานมาก ให้แม่ช่วยด้วย พ่อแม่ทราบเรื่องแทบช็อคไม่รู้ว่าจะช่วยลูกอย่างไร วันที่ 1 ก.ย. 65 จึงตัดสินใจเดินทางมาพบ นางปวีณา ที่มูลนิธิปวีณาฯ จ.ปทุมธานี ขอให้ช่วยเหลือลูกสาวด้วย เพราะกลัวลูกจะคิดสั้น
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ให้นางเอ และนายบี ไลน์สอบถามลูกสาวขอให้ส่งสถานที่อยู่รายละเอียดมาให้มากกว่านี้ แต่น้องนุช บอกแม่ว่าไม่รู้ว่าจุดที่อยู่ตรงไหน ยังให้ข้อมูลอะไรไม่ได้มาก นางปวีณา จึงให้แม่และพ่อพักอยู่ที่มูลนิธิปวีณาฯเพื่อรอเวลาให้ลูกติดต่อมา ต่อมาในวันที่ 2 ก.ย. 65 นางปวีณา ได้มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาแม่และพ่อไปร้องทุกข์ที่ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งนางปวีณา ได้ปรึกษา นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล ได้ให้ข้อมูลว่า พื้นที่บางแห่งในเมียวดีจำเป็นต้องให้ผู้มีความใกล้ชิดกับทหารเมียนมาเข้าช่วยเหลือ และในระหว่าง 2-3 วัน ลูกสาวหายเงียบไป นางปวีณา พยายามหาหน่วยงานที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือน้องนุช แต่เนื่องจากเมืองเมียวดี กำลังสู้รบกันอยู่ จึงยากที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้
นางปวีณา จึงได้โทรศัพท์ปรึกษา พ.อ.เจษฎา แสนทน ผบก.กรมรบพิเศษที่ 5 จว.เชียงใหม่ ขอให้ช่วยประสานหน่วยทหารที่สามารถเข้าช่วยเหลือ น้องนุช ซึ่งถูกหลอกไปบังคับให้ขายตัวอยู่ เมืองเมียวดี ซึ่งขณะนี้กำลังสู้รบกันอยู่ พ.อ.เจษฎา แสนทน ผบก.กรมรบพิเศษที่ 5 จว.เชียงใหม่ ได้ติดต่อไปยัง พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก. ร.14
ต่อมาวันที่ 4 ก.ย. 65 น้องนุช ได้ไลน์ส่งพิกัดโลเคชั่นจุดที่อยู่ให้แม่และพ่อ เย็นวันเดียวกัน นางปวีณา ได้ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก. ร.14 และส่งรายละเอียดไปให้ทางไลน์ คืนนั้นทาง พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก. ร.14 ได้โทรศัพท์กลับมาว่า บริเวณนั้นมีร้านคาราโอเกะเป็น 10 แห่ง ขอชื่อร้านคาราโอเกะที่ น้องนุช อยู่ให้ชัดเจน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อ น้องนุช ได้อีก จนวันที่ 5 ก.ย. 65 ช่วงเย็นน้องนุช ได้ไลน์บอกชื่อร้านคาราโอเกะให้และทันทีส่งชื่อร้านให้ทหารไทยได้เข้าประสานทหารเมียนมาเข้าไปช่วยพาตัว น้องนุช ออกมาได้พาลงเรือข้ามมาฝั่งไทยอย่างปลอดภัยกลางดึก
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จึงได้ประสาน น.ส.อัจฉรา พมจ.จว.ตาก ให้รับตัว น้องนุช จากด่านเข้ารับการคุ้มครองพาเข้า รพ. แอดมิด รพ.แม่สอด คืนวันที่ 5 ก.ย. 65
ช่วงบ่ายวันที่ 6 ก.ย.นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาแม่และพ่อเดินทางไปรับ น้องนุช และการเดินทางไปในครั้งนี้ นอกจากจะไปรับ น้องนุช แล้ว ยังต้องการไปขอบคุณทหาร-ตำรวจ เพราะหากไม่ได้ พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก. ร.14 และ พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก.สภ.แม่สอด จว.ตาก ช่วย น้องนุช ก็ไม่มีวันได้กลับบ้านแน่นอน โดยนางปวีณา ยังได้ประสาน พ.ต.อ.นมต์ศักดิ์ แก้วอ่อน ผกก. สภ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อให้แม่และพ่อเข้าเข้าแจ้งความกับผู้ที่ีล่อลวงน้องนุชขายซ่องด้วย
โดยหมายกำหนดการเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.ย. 65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าพบ พ.อ.ณรงค์ชัย เจริญชัย ผบ.ฉก. ร.14 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 อ.แม่สอด จว.ตาก และพบกับพ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ แก้วอ่อน สภ.แม่สอด จว.ตาก พร้อมเดินทางไปดูเส้นทางที่น้องนุชถูกหลอกพาข้ามฝั่งเข้าพม่าและเส้นทางพากลับฝั่งไทย ทั้งนี้ นางปวีณา ยังได้พา นรต.นักเรียนนายร้อยตำรวจ ปี 3 จำนวน 20 นาย ซึ่ง รร.นายร้อยตำรวจมีนโยบายให้มาฝึกงานด้านสังคมกับองค์กรเอกชนร่วมเดินทางไปดูงานที่ อ.แม่สอด จว.ตาก ด้วย
