วันที่ 7 มิ.ย.66 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กเเละสตรี พร้อมด้วย นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล เดินทางไปที่ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพื่อเข้าพบ นายมยิด หน่าย ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก , คุณจอ ซายะ ยะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก , คุณ อู ติ้น ซิน หัวหน้าตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดท่าขี้เหล็ก , พ.ต.ต. ฮลา ทู สารวัตรสถานีตำรวจท่าขี้เหล็ก เเละ คุณ จอห์น ทุน TBC เมียนมาร์ (คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ) โดยมีการประชุมร่วมกัน พูดคุยถึงปัญหากระบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ ที่ได้มีการหลอกลวงผู้หญิงไทยไปค้าประเวณี
นางปวีณา เผยว่า ทางมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์มาโดยตลอด 24 ปี ทั้งในประเทศเเละต่างประเทศ พอหลังจากโควิดซา หญิงไทยก็ถูกหลอกไปค้าประเวณี ซึ่งในปี 2566 ตั้งเเต่เดือน ม.ค. -6 มิ.ย. มูลนิธิปวีณารับเรื่องราวร้องทุกข์เคสถูกหลอกไปค้าประเวณี และค้ามนุษย์ จำนวน 114 เคส หนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงไทย ถูกหลอกมาค้าประเวณีในเขตปกครองพิเศษจีน ในประเทศเมียนมา 27 ราย อยู่ในเมืองล็อกกิ่ง (เล้าไก่) 16 ราย เมืองเมียวดี 1 ราย เมืองป๊อก 10 ราย เราได้รับความช่วยเหลือจากทหาร TBC (คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ) มาโดยตลอดเเต่ในครั้งนี้ ทางมูลนิธิ จับมือร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศ ทหาร TBC ไทย-เมียนมาร์ เเละ ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งในการประชุม นางปวีณา ได้มอบเอกสารร้องทุกข์พร้อมหลักฐาน ที่อยู่ของเหยื่อทั้ง 27 ราย ให้กับนายมยิด ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก เหยื่อทั้งหมดจะถูกทำร้ายทุบตี หากไม่ทำงานจะไม่ให้กินข้าว บางรายถูกบังคับให้เสพยาเสพติดอีกด้วย ทั้งนี้ นางปวีณาเเละอธิบดีกรมการกงสุล ได้พูดถึงเรื่อง น้องเเองจี้ สาวมาเลเซีย ที่ข้ามไปท่าขี้เหล็ก พร้อมเร่งประสานให้เร่งช่วยเหลือ ซึ่งในวันนี้ นางปวีณาได้พบกับเเม่ของน้องเเองจี้เข้ามาขอความช่วยเหลือ ทางนางปวีณาได้ประสานกับ ผกก.สภ.เเม่สาย ให้พาไปพบ รอง ผกก.สอบสวน ให้ติดตามคดีต่อไป ซึ่งตอนนี้คดีนี้ ตำรวจท่องเที่ยวให้การช่วยเหลืออยู่ เเละ ผบช.ภ.5 สั่งเร่งให้ติดตามคดีนี้เช่นกัน
ด้านนายมยิด หน่าย ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก เผยว่า เรื่องนี้ต้องให้ความสำคัญเเละเห็นอกเห็นใจ ฝั่งไทย โดยยืนยันว่า ยินดีที่จะช่วยเหลือ เเละเร่งประสานอย่างเต็มที่
สุดท้ายนางปวีณา เผยว่า ขอขอบคุณ อธิบดีกรมการกงสุล ที่ได้ประสานหน่วยงานให้มาประชุมกันในวันนี้ เพื่อจะมีมาตรการป้องกันเเละปราบปราม ขบวนการค้ามนุษย์ให้เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ นางปวีณาก็ขอฝากเตือน หญิงไทยทุกคน เข้าใจว่าเกิดความยากจน อยากทำงาน เเต่ไม่ควรรีบตัดสินใจทำงานต่างประเทศทั้งที่ตนเองไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ต้องไปสอบถามกับกระทรวงเเรงงาน ไม่เช่นนั้น อาจถูกหลอกเป็นเหยื่อค้าประเวณี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศเมียนมา เป็นเขตปกครองพิเศษ ยากมากที่จะเดินทางกลับ เเละทางมูลนิธิปวีณาฯก็จะติดตามผู้หญิงที่ถูกหลอกไปค้าประเวณี ทั้งสิ้น 114 รายต่อไป เเละขอขอบคุณสื่อมวลที่มาร่วมเผยเเพร่ข่าวในครั้งนี้ด้วย