“ปวีณา”ช่วย2สาวพ้นนรกผัวโหดซ้อมลับมีดขู่ฆ่า

0
733

วันที่ 9 มิ.ย.64 ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เปิดเผยว่า ได้ประสาน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ช่วยหญิงสาว 2 ราย หลังร้องมาที่“มูลนิธิปวีณาฯ” รายแรก สามีติดยาทำร้าย-ขู่ฆ่ามาแรมปีต้องทนทุกข์ทรมาน รายที่ 2 ถูกสามีซ้อมศีรษะแตกเย็บ 8 เข็ม รองเท้าตบหน้า กักขัง 4 วัน บังคับให้ยอมรับภรรยาน้อยมาร่วมใช้ชีวิต ทั้ง 2 ราย เกิดเหตุในพื้นที่ สภ.บางพลี

รายแรก สาวใหญ่วัย 50 ปี อาชีพแม่บ้านบริษัทแห่งหนึ่ง ทนทุกข์กับสามีที่อยู่กินกันมา 10 ปี มีลูก 1 คน วัย 7 ขวบ สามีชอบดื่มเหล้าเมาเป็นประจำ ทำงานก่อสร้างเงินไม่เคยเหลือ เวลาเมาชอบหาเรื่องทะเลาะทำร้ายร่างกาย ระยะหลังหันไปเสพยาบ้า ยาไอซ์หนัก พอเมาหลอนด่าทอหาว่าไปมีชายอื่น นั่งลับมีดลับขวานให้คมขู่จะฆ่าให้ตาย

เมื่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิฯ ได้รับเรื่องห่วงใยความปลอดภัย ประสาน พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ส่งชุดสืบสวนไปจับกุมตัวสามีติดยารายนี้ทันที จากการตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในตัวและตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด จึงดำเนินคดีข้อหา เสพยาเสพติด และครอบครองยาไอซ์ ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และจะคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลวันที่ 9 มิ.ย.นี้

รายที่สอง สาวพนักงานโรงงาน อายุ 31 ปี ถูกสามีทำร้ายตบตี ใช้รองเท้าตบหน้า ใช้โทรศัพท์มือถือตีจนศีรษะแตกต้องเย็บ 8 เข็ม แถมให้ภรรยาน้อยคอยเฝ้าดูพฤติกรรมที่โรงพยาบาล หลังกลับมาบ้านถูกกักขังในห้อง 4 วัน ถูกยึดโทรศัพท์ไม่ให้ติดต่อใคร สาเหตุจากสามีหึงหวงกล่าวหาว่าไปมีชายอื่น และสามีต้องการให้ยอมรับภรรยาน้อยอีกคน หลังสามีอารมณ์ดีให้ใช้โทรศัพท์จึงรีบโทรหาพี่สาวให้มารับตัวก่อนพาเข้าแจ้งความและร้องของความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

ล่าสุดนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ทราบจาก พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ดังนี้ เคสแรกตำรวจจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติดและครอบครองยาไอซ์ ได้คุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลในวันนี้ (9 มิ.ย.) ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกาย ตำรวจจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม สำหรับรายที่ 2 ผกก.ได้สั่งการพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกสามีมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม

นางปวีณา กล่าวขอบคุณ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.บางพลี ที่ได้เร่งดำเนินคดีทั้ง 2 รายและขอให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยให้ทั้ง 2 คดีด้วย โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามให้การช่วยเหลือต่อไป