เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ว่าที่ ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์,ว่าที่ ร.ต.อ.ธีระยุทธ วันโสภา, ร.ต.ท.ปรวัฒน์ กนกทอง รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. นำโดย พ.ต.ท.พรพิทักษ์ พัฒนชัย สว.กก.2 บก.ปทส.,ร.ต.ท.สมบัติวาระโว รอง สว.(ป) กก.2 บก.ปทส.,และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเสือ ภ.จว.ปทุมธานี นำโดย ร.ต.อ.จำนง จันทร์เปรม รอง สวป.ฯ สภ.หนองเสือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ปทุมธานี ร.ต.อ.อภิชา ทวีผล รอง สว.ตม.จว.ปทุมธานี, ร.ต.ท.มงคล เล็งกลาง รอง สว.ตม.จว.ปทุมธานี เข้าสกัดรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซู D-MAX สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผค-8271 พิษณุโลก ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยจับกุมได้บริเวณแยกไฟแดงบึงกาสาม ทล.3261 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมคขับ นายสมเกียรติ อายุ 19 ปี สัญชาติไทย อยู่ ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และคนงานต่างด้าวชาวเมียนมา ชาย-หญิง รวม 12 คน พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะอีซุซู D-MAX สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผค-8271 พิษณุโลก จำนวน 1 คัน โทรศัพท์ จำนวน 2 เครื่อง กุญแจรถยนต์ 1 ดอก
โดยกล่าวหาว่า นายสมเกียรติ ผู้ต้องหา“รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และคนต่างด้าวเมียนมา ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.ปทุมธานี อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.และ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรหนองเสือ ภ.จว.ปทุมธานี สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบจนกระทั่งวันนี้(3พย)เวลา 12.20 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทางบริเวณ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี โดยพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซุซู D-MAX สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข ผค-8271 พิษณุโลก มีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึงบริเวณแยกไฟแดงบึงกาสาม ทล.3261 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนเป็นที่พอใจแล้ว ฃ
เบื้องต้นสอบถามนายสมเกียรติ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าว โดยพบว่ามีการลักลอบขนงานแรงต่างด้าวหลบหนีเข้ามาเมืองนั่งโดยสารอัดกันมาในรถรวม 13 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดพบว่าทั้งหมดเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถามนายสมเกียรติ ให้การยอมรับว่า เวลาประมาณ 02.00 น.วันนี้ได้รับการประสานจากชายไทย(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง)ให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณป่าข้างทางพื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 12 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหารับด้วยว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริงและได้กระทำแบบนี้มาแล้ว 5 ครั้ง โดยบอกกับแม่ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์ว่าจะนำรถไปรับสาวไปเที่ยวแต่นำมาลักลอบขนแรงงานต่างด้าวโดยเงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่าย
ขณะที่คนงานต่างด้าวชาวเมียนมาให้การผ่านล่ามยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทางจะมีญาติของผู้ต้องหาเป็นคนจ่ายเงินให้กับนายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทยคนละประมาณ 10,000–25,000 บาท ขณะจับกุมแรงงานต่างด้าวต่างหิวโหยไม่ได้กินข้าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งอาหารข้าวกะเพราไข่ดาวพร้อมน้ำดื่มให้กิน ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดจากนั้นควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองเสือ จว.ปทุมธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
