ปทุมธานี การไฟฟ้ารังสิตพร้อมตำรวจ บุกค้นอาคารพาณิชย์ 2 แห่ง โกงค่าไฟ 1.2 ล้าน แก๊งวัยรุ่นเช่าเปิดเครื่องขุดบิทคอยน์ 24 ชั่วโมง

0
16

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายประกัน บุษบงค์ รองผู้จัดการด้านเทคนิคการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รังสิต พร้อมด้วย ร.ต.อ.เอกชลิต สีสัน รองสารวัตรสอบสวน สภ.คูคต พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต และ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ารังสิต ได้ร่วมกันขอหมายค้นจากศาลจังหวัดธัญบุรี และเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 2 แห่ง หลังพบว่า มีการลักลอบใช้ไฟฟ้ามูลค่าความเสียหาย 2 ที่รวมกันประมาณ 1.2 ล้านบาท
โดยที่แรกเข้าตรวจสอบภายในซอยถนนพหลโยธิน 62 แยกที่ 20 เป็นตึกอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เลขที่ 611/10 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยเจ้าของอาคารพาณิชย์ดังกล่าว เข้าร่วมตรวจสอบ (เจ้าของอาคารขอสงวนนาม) หลังจากทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพบพิรุธในการใช้ไฟ โดยการตรวจสอบจากเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ผ่านหม้อแปลงไฟฟ้าพบมีกระแสไฟไหลเข้าทำงานแต่มิเตอร์ไม่หมุนและในการจ่ายค่าไฟเป็นศูนย์ จึงทำการตรวจสอบพบว่า มีการเจาะด้านหลังหม้อแปลงไฟฟ้าแล้วใช้สารเคมีบางอย่างหยอดที่เฟืองเพื่อไม่ให้เฟืองหมุน นอกจากนั้นบริเวณชั้น 4 ยังพบเครื่องมืออุปกรณ์ บิทคอยน์ จำนวน 18 เครื่อง ทำงานเสียงดังกระหึ่มอยู่บริเวณชั้น 4 ของตึกดังกล่าวตีล้อมด้วยไม้อัดและพัดลมเป่าความร้อน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนความเสียหายในครั้งนี้เบ็ดเสร็จแล้วรวมค่าปรับด้วยประมาณ 620,000 บาท
จากการสอบถามเจ้าของตึกดังกล่าวกล่าวว่า มีชายวัยรุ่น 2 คนมาขอเช่าทำสัญญาเช่าตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม คร่าวๆ นับถึงวันนี้ก็ประมาณ 4 เดือน ซึ่งหลังจากทำสัญญาเช่าก็ไม่เคยพบเจอวัยรุ่นดังกล่าวอีกเลย นอกจากจะโทรไปสอบถามเรื่องค้างค่าเช่าล่าช้าก็ไม่มีการรับสายสักพักนึงกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็จะโอนตังค์เข้ามาให้ตน โดยตนให้เช่านั้นเดือนละ 8,000 บาท ทราบชื่อในสัญญาเช่าชื่อ(นายภัชรกร สายทอง)ผู้เช่าอายุ 27 ปี
ส่วนจุดที่สองภายในซอยพหลโยธิน 60/1 เข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ไม่มีเลขที่ ต.คูคต. อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยรับแจ้งจากการไฟฟ้าว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นอาคารตึกร้างลักษณะเหมือนไม่มีคนอยู่แต่จะได้ยินเสียงเหมือนเครื่องอะไรกำลังทำงานจากชาวบ้านที่แจ้งมา จึงให้เจ้าหน้าที่วัดกระแสไฟพบกระแสไฟจากมิเตอร์วิ่งเข้าภายในตัวตึก จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตัดกุญแจเพื่อตรวจสอบภายในพบบริเวณชั้น 3 มีอุปกรณ์บิทคอยน์ จำนวน 12 ตัว ทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงดำเนินการยึดไว้เป็นของกลางความเสียหายครั้งนี้ประมาณ 620,000 บาทเช่นกัน เปิดให้เช่ามาแล้วประมาณ 4 เดือน คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันจึงนำของกลางทั้งหมดไปที่ สภ.คูคต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทางด้าน นายประกัน บุษบงค์ รองผู้จัดการด้านเทคนิคการไฟฟ้าส่วนภูมิภาครังสิต กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากที่มีผู้ใช้ไฟฟ้าอยู่ในอาคารบริเวณที่เราตรวจพบนั้น เป็นลักษณ์อาคารที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย เหมือนอาคารร้างทั้งสองจุด แล้วผู้ใช้ไฟได้ยินเสียงพัดลมทำงานเสียงดัง จึงได้มีการติดต่อแจ้งมายังการไฟฟ้า เราจึงได้เข้าไปตรวจสอบพบว่ามีการใช้ไฟแต่มิเตอร์ไม่หมุน ซึ่งเราจึงได้ทำการตรวจสอบก็พบว่ามีการใช้ไฟจริง แต่น่าจะมีการดัดแปลงละเมิดที่ตัวมิเตอร์ เราก็เลยเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีการละเมิดจริงๆ ในเบื้องต้นจึงได้ประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.คูคต ซึ่งโดยการละเมิดมีด้วยกัน 2 จุด โดยได้มาแจ้งความและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขอหมายค้นและเข้าไปตรวจค้น โดยจุดแรกได้ทั้งหมด 18 เครื่อง และจุดที่สองได้ทั้งหมด 12 เครื่อง รวมทั้งหมด 30 ชุด โดยความเสียหายเฉลี่ยแต่ละที่ใน 1 เดือนค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งตอนนี้เราก็กำลังตรวจสอบว่ามีการติดตั้งนานหรือยังเรายังอยู่ระหว่างตรวจสอบ โดยคาดว่าค่าเสียหายประมาณหลักล้านบาท