วันที่ 22 มกราคม พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ต.ยศชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส.นำกำลังเข้าค้นคอนโดหรู ย่านฝั่งธน ตามหมายศาลอาญาธนบุรี ที่ 23/68 ลงวันที่ 21 ม.ค.68 ภายหลังจากที่ได้รับแจ้งจากนิติบุคคลมีกลุ่มวัยรุ่นลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและจับกลุ่มมั่วสุมกันเสพยาเสพติด
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางตำรวจ ดส.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า คอนโดหรูย่านฝั่งธน มีวัยรุ่นมั่วสุ่มกันเสพยาเสพติดเป็นระยะเวลานานกว่า 3 เดือน และมีลักษณะในการลักลอบผลิตยาเสพติดแปรรูปซึ่งเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจได้มีการเฝ้าดูพฤติกรรมของวัยรุ่นแก๊งนี้ พบว่าในทุก ๆ วัน เวลาหลัง 18.00 น.จะนัดรวมกลุ่มกันมาและส่งเสียงดังโวยวาย จนทำให้ลูกบ้านเกิดความเดือดร้อนรำคาญใจ กระทั่งวันนี้ตำรวจจึงนำหมายค้นเข้าตรวจสอบพบว่า ในห้องดังกล่าวนอกจากจะเป็นแหล่งมั่วสุ่มแล้วยังเป็นแหล่งผลิตสารเสพติดแปรรูปที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ”พอตเค“
จากการสอบปากคำ นายปอนด์ และนางฟิล์ม ซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าของห้องดังกล่าว ให้การว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้จะรวมตัวกันในเวลากลางคืน เพื่อมานั่งผลิต “พอตเค” อยู่ภายในห้องและเสพยาเสพติดก่อนที่ในช่วงเวลากลางวัน จะส่งออเดอร์ตามคำสั่งซื้อในกลุ่มไลน์ โดย ”พอตเค“ จะมีหลายรสชาติให้เลือก อาทิ องุ่น โค้ก สตอรว์เบอร์รี่ ซึ่งเป็นการผสมกลิ่นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการใช้งาน “หัวพอตเค” ดังกล่าวจะอยู่ที่ราคา 1,300 – 1,500 บาท ซึ่งเมื่อมีลูกค้าสั่งสินค้ามาก็จะนำไปวางไว้จุดส่งพัสดุด้านล่างของคอนโด จากนั้นจะมีไรเดอร์มารับไปส่งยังปลายทางของลูกค้า
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจค้นพบภายในห้องพบยาเสพติดและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด สารเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมาก ได้แก่ 1.หัวพอตบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีนและเคตามีน 2.อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตคอลลาเจนหรือยาเมา 3.น้ำหวานเจลลี่ที่มีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน 4.ยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่ ยาไอซ์ และ เคตามี 5.เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของยาเสพติด(เมทแอมเฟตามีน)หรือน้ำบลู 10 ขวด 6.เจลลี่ที่ผสม(เมทแอมเฟตามีน) 5 ขวด 7.น้ำเชื่อม ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องดื่มน้ำหวานที่มีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน 8.คอลลาเจนที่มีส่วนผสมของ(เมทฯ) 5 ถุง 9.หัวพอตเคที่มีส่วนผสมสารเสพติดจำนวน 30 หัว 10.วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2 และยาอันตรายบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางสีชมพู ใช้สำหรับผลิตยาเมา(คอลลาเจน) จำนวนมาก 11.น้ำยาที่บรรจุอยู่ในบิ๊กเกอร์ที่มีส่วนผสมของเมทแอมเฟตามีน จำนวน 1 ขวด 12.น้ำยาและอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยาเมา(คอลลาเจน) เช่น เครื่องปั่น เครื่องซีน ขวด ฝาขวด และคอลลาเจนผง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และ จำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต /ร่วมกันผลิตวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับใบอนุญาต และ จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต / เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม กองบัญชาการตำรวจนครบาลนำโดย พล.ต.ท.สยาม ได้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันมียาเสพติดแฝงเข้ามาในรูปแบบ “หัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเค” หรือ ที่เรียกกันว่า “พอตเค” ซึ่งขณะนี้กำลังเป็นที่ระบาดหนักในกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน อีกทั้งสารเสพติดดังกล่าว เมื่อมีการนำมาแปรรูปจะทำให้เยาวชนและประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งทางรัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคงปลอดภัยจากยาเสพติดอีกด้วย
