ถือฤกษ์ดี 5 ธันวาผู้ว่าปทุมฯนำเกี่ยวข้าวยกระดับข้าวหอมปทุมธานี 1 ตามแนวศาสตร์พระราชา

0
757


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 ธันวาคม 2564 ณ บ้านแสนสุขสกัดห้า หมู่ที่ 5 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายสมชาย ตรีณาวงษ์ นายอำเภอหนองเสือ นายพงษ์เทพ รุ่งเรือง พัฒนาการจังหวัดปทุมธานี รศ.ดร.สุจิระ ขอจิตต์เมตต์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี หัวหน้าจิตอาสา 904 จังหวัดปทุมธานี นายสุรพงษ์ เป้ากลาง ประธานหอการค้าจังหวัดปทุมธานี และประธานกรรมการ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีปทุมธานี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด นายสิทธิพล ภู่สมบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีปทุมธานี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ประชาชนจิตอาสาอำเภอหนองเสือ ร่วมเปิดกิจกรรม หว่านข้าววันแม่ เกี่ยวข้าววันพ่อ“โครงการเรียนรู้วิถีชาวนา พบความสุข ตามแนวทางศาสตร์พระราชา” ปีที่ 5/2564
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ศาสตร์พระราชาของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ถือเป็นความโชคดีของเกษตรกร ทำให้มีองค์ความรู้นำไปใช้ต่อสู้กับปัญหา เพื่อหลุดพ้นจากปัญหาหนี้สิน สร้างความสมดุลให้กลับมาใหม่ ทั้งผืนดินอันเป็นต้นทุนหลักและวิถีชีวิตที่มีภูมิคุ้มกันตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงการเดินรอยตามศาสตร์พระราชา เป็นการเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ ทำพอกินพอใช้ เหลือก็นำมาขายสร้างรายได้ เป็นศาสตร์ที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่นอกจากจะทรงด้วยทศพิธราชธรรมแล้ว ทรงยังเป็นพระราชาที่เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต และการทำงานแก่พสกนิกรของพระองค์และนานาประเทศอีกด้วย ผู้คนต่างประจักษ์ถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์และมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งแนวคิดหรือหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีความน่าสนใจที่สมควรนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิตการทำงานเป็นอย่างยิ่ง หากท่านใดต้องการปฏิบัติตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ท่านสามารถนำหลักการทรงงานของพระองค์ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์

ไดยนายสิทธิพล ภู่สมบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีปทุมธานี เปิดเผยว่า บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีปทุมธานี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ก่อตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ในการสานพลังประชารัฐในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เพื่อเป็นกลไกความร่วมมือระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน ในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน มีเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้ชุมชน ประชาชนมีความสุข ด้วยการพัฒนาสามกลุ่มงานคือ กลุ่มเกษตร กลุ่มแปรรูป (SME/OTOP) กลุ่มท่องเที่ยวชุมชน ด้วย 5 กระบวนการ ได้แก่ การเข้าถึงปัจจัยการผลิต การสร้างองค์ความรู้ การตลาด การสื่อสารสร้างการรับรู้เพื่อความยั่งยืน และการบริหารจัดการ ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินโครงการเรียนรู้วิถีชาวนา พบความสุข ตามแนวทางศาสตร์พระราชา เป็นการพัฒนากลุ่มเกษตร เปิดโอกาสให้ชาวเมืองได้เช่าพื้นที่นาเพื่อเรียนรู้การทำนาจากชาวนา โดยชาวเมืองผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการทำนาทั้งหมด มีชาวนาเป็นผู้ลงมือทำนาและบำรุงรักษาจนถึงเวลาเก็บเกี่ยว โดยผู้เช่านาจะได้รับ ข้าวสาร (ข้าวหอมปทุม) จำนวน 250 กิโลกรัมต่อไร่ หากมีข้าวสารเหลือชาวนาสามารถขายข้าวให้บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีปทุมธานีฯ ตาม “โครงการขายข้าวสาร” เป็นการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรอีกช่องทางหนึ่ง
โดยได้ดำเนินการนำร่องปีแรกที่บ้านแสนสุขสกัดห้า หมู่ที่ 5 ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ มีวัตถุประสงค์โครงการเพื่อ

  1. สานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
  2. น้อมนำศาสตร์พระราชา และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต
  3. ให้ประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้เชิงปฏิบัติการศาสตร์พระราชา ได้รับประสบการณ์วิถีของชาวนา และมีส่วนร่วมในการสร้างชุมชนต้นแบบให้เป็นศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดศาสตร์พระราชาสู่สาธารณะ
  4. เพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวหอมปทุมธานี1 ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ยกระดับข้าวหอมปทุมธานี 1 ให้เป็นที่รู้จัก และสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ผลิตข้าวมากขึ้น
  5. สร้างการรับรู้แก่ประชาชนทั่วไป รวมถึงเชื่อมโยงบูรณาการและการขยายเครือข่ายการขับเคลื่อนงานเกษตรปลอดภัย
    จากนั้น นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้นำ จิตอาสาจังหวัดปทุมธานี ร่วมปลูกต้นรวงผึ้ง เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายและอบอุ่น ได้รับการสนับสนุนจากหอการค้าจังหวัดปทุมธานี และบริษัทประชารัฐรักสามัคคีปทุมธานีวิสาหกิจเพื่อสังคม ณ แปลงนา บ้านแสนสุขสกัดห้า ตำบลบึงกาสาม อำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี