ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วม อย. ทลายโรงงานผลิตยาย่านหลักสี่ยึดยาสเตียรอยด์ไม่ขึ้นทะเบียน กว่า 1.9 ล้านเม็ด

0
20

วันที่ 29 มกราคม 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รรท.ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภญ.วรสุดา ยูงทอง ผู้อำนวยการกองยา ร่วมกันแถลงผลงานจับกุมกวาดล้างโรงงานผู้ผลิตยาสเตียรอยด์รายใหญ่ ตรวจยึดยา Dexamethasone จำนวนกว่า 1,930,000 เม็ด
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ร่วมกันเฝ้าระวังการนำลักลอบนำยาสเตียรอยด์ซึ่งเป็น “ยาควบคุมพิเศษ” ที่ร้านยาขายให้ได้เฉพาะผู้ป่วยที่มีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น
โดยมีการลักลอบนำไปใช้ผิดกฎหมาย ทั้งในการจำหน่ายในรูปแบบยาชุด และลักลอบผสมในผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องดื่ม และเครื่องสำอาง เพื่อหวังผลในการรักษาอาการต่างๆ ให้เห็นผลอย่างรวดเร็วและชัดเจน โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่พบลักลอบนำยาสเตียรอยด์ไปผสมแล้วกล่าวอ้างสรรพคุณ รักษาโรคปวดเมื่อย หอบหืด ลดอาการอักเสบ รักษาโรคมะเร็ง ซึ่งคนไข้ส่วนใหญ่เมื่อใช้
ครั้งแรกเห็นผลจะนิยมรับประทานอย่างต่อเนื่อง ในระยะยาวทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร เกิดหนอกบริเวณหลังคอ กระดูกพรุน ติดเชื้อง่าย ภาวะไตวาย และหากลักลอบนำไปผสมในเครื่องสำอางหากใช้แล้วอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ผิวบางลง เกิดเป็นฝ้าถาวร รอยแตกลายงาตามบริเวณที่ใช้
ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รับการประสานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่ามีการลักลอบผลิตยาสเตียรอยด์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาอยู่ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 6 พื้นที่ตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจสอบ
ผลการตรวจค้นพบ นางสาว ปณิธี (สงวนนามสกุล) ผู้รับอนุญาตผลิตยาแผนปัจจุบัน โดยสถานที่ดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เป็นสถานที่ผลิตผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน และขายส่งยาแผนปัจจุบันที่ตนเองผลิต โดยขณะตรวจพบการผลิตยาสเตียรอยด์ ไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้
DEXAMETHASONE Tablets 0.5 mg ฉลากสีฟ้าอ่อน ไม่ระบุสถานที่ผลิตยา ไม่ระบุเลขทะเบียนตำรับยา จำนวน 434,000 เม็ด
DEXAMETHASONE Tablets 0.5 mg ฉลากสีฟ้า ไม่ระบุสถานที่ผลิตยา ไม่ระบุเลขทะเบียนตำรับยา จำนวน 409,000 เม็ด
DEXAMETHASONE Tablets 0.5 mg ฉลากสีเขียวเข้ม ไม่ระบุ สถานที่ผลิตยา ไม่ระบุเลขทะเบียนตำรับยา จำนวน 497,000 เม็ด
DEXAMETHASONE Tablets 0.5 mg ฉลากสีเขียวอ่อน ไม่ระบุสถานที่ผลิตยา ไม่ระบุเลขทะเบียนตำรับยา จำนวน 590,000 เม็ด
กระปุกพลาสติก สีขาว ติดฉลากระบุ DEXAMETHASONE Tablets 0.5 mg ฉลากสีเขียวอ่อน ไม่ระบุสถานที่ผลิตยา ไม่ระบุเลขทะเบียนตำรับยา จำนวน 162 กระปุก
ฝาพลาสติกสีเขียวเข้ม จำนวน 408 ชิ้น ตรวจยึดของกลางเป็นยาสเตียรอยด์ DEXAMETHASONE Tablets 0.5 mg จำนวน 1,930,000 เม็ด โดยโรงงานดังกล่าวจะใช้กล่องลังเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ใช้แล้ว บรรจุยาสตียรอยด์ของกลางในการจัดเก็บและขนส่ง และขนส่งเพื่อตบตา ยากแก่การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งยาดังกล่าวหากพบ
มีการกระจายออกสู่ท้องตลาด แล้วประชาชนนำไปบริโภคจนเกินอาการเจ็บป่วย จะมีมูลค่าความเสียหายในระบบสาธารณสุขไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท นำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ผลิตยาไม่ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ปัญหาการนำยาสเตียรอยด์ไปใช้ในทางที่ผิด เป็นปัญหาคุกคามสุขภาวะของประชาชนชาวไทย และบั่นทอนระบบสาธารณสุขมาอย่างยาวนาน โดยพบว่าในปัจจุบันมีการนำยาสเตียรอยด์ไปลักลอบผสมในผลิตภัณฑ์สุขภาพหลายชนิด ส่งผลให้ประเทศต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมากในการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการบริโภคสเตียรอยด์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้แก้ไขปัญหายาสเตียรอยด์ที่รั่วไหลออกนอกระบบการกำกับดูแลมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้กำหนดมาตรการควบคุมให้ผู้รับอนุญาตที่มีทะเบียนตำรับยาสเตียรอยด์ต้องจัดทำรายงานการผลิตและขายยา และจัดสถานะของยาสเตียรอยด์ให้เป็น “ยาควบคุมพิเศษ” ที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น กรณีที่ร้านขายยาจะจ่ายยาให้คนไข้ได้ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ และจัดทำบัญชีการขายยารายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาการพบการลักลอบการผลิตยาสเตียรอยด์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาในครั้งนี้ สอดคล้องกับสภาพปัญหาการลักลอบนำยาสเตียรอยด์ไปผสมในผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งพบว่าผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรืออาหารเสริมบำรุงสุขภาพบางชนิด มีการลักลอบนำยาสเตียรอยด์ในรูปแบบยาเม็ดและเป็นยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาไปผสม หรือกรณีที่ อย.ตรวจพบการขายยาชุดแก้ปวด พบว่านำยาสเตียรอยด์มาจัดยาชุด ซึ่งฉลากไม่ระบุเลขทะเบียนตำรับยาและสถานที่ผลิตยา เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามหาแหล่งผลิตยาดังกล่าวได้ สาเหตุที่มักนิยมนำยาสเตียรอยด์ไปใช้ผสมในผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ และกล่าวอ้างสรรพคุณ ว่าสามารถรักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหอบหืด หรือบางรายอ้างว่าใช้รักษามะเร็งได้นั้น เป็นเพราะยาสเตียรอยด์มีสรรพคุณในการต้านการอักเสบ และมีฤทธิ์ในการกดภูมิคุ้มกันและลดไข้ ดังนั้น เมื่อคนไข้ได้รับยาสเตียรอยด์ระยะแรกแล้วรู้สึกอาการดีขึ้น จึงเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นใช้ดี ส่งผลให้มีการบอกต่อจนเป็นที่นิยม แต่การได้รับยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน นอกจากจะไม่รักษาอาการที่เป็นอยู่ให้หายขาดได้ ยังส่งผลเสียต่อร่างกาย ทำให้บวมน้ำ ความดันโลหิตสูง กระเพาะอาหารบางลงจนถึงขั้นกระเพาะอาหารทะลุ กระดูกพรุนแตกหักได้ง่าย เกิดอาการอ่อนเพลีย และเมื่อร่างกายได้รับสารสเตียรอยด์เป็นเวลานานและหยุดใช้กะทันหัน จะทำให้ร่างกายขาดสเตียรอยด์อย่างฉับพลัน จนอาจเกิดภาวะช็อก หมดสติ และถึงขั้นเสียชีวิตได้ที่ผ่านมา อย. ร่วมกับ ปคบ. ระดมตรวจจับผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมายที่ลักลอบใส่ยาสเตียรอยด์ อย่างต่อเนื่อง และสืบหาแหล่งที่มาว่าสเตียรอยด์ดังกล่าวหลุดรอดจากระบบยาได้อย่างไร ดังนั้น
ในการตรวจจับครั้งนี้ จึงเป็นการจัดการตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อป้องกันการลักลอบนำสเตียรอยด์ไปผสมในผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นที่ส่งผลให้เกิดปัญหาคุกคามสุขภาวะของประชาชน ก่อให้เกิดปัญหาด้านสาธารณสุขตามมา จึงขอเตือนประชาชนที่นิยมบริโภคอาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่กล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง และยังไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. ให้ระมัดระวังการได้รับยาสเตียรอยด์โดยไม่จำเป็นด้วย ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ได้รับอนุญาตจาก อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th และ Line: @FDAThai หากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยหรือไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน อย.1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th Line: @FDAThai, Facebook: FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รรท.ผบก.ปคบ. กล่าวก่อนเลือกผลิตภัณฑ์สุขภาพมาบริโภค ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ โดยปัจจุบันประชาชนหวังผลการรักษาที่รวดเร็ว และคำบอกเล่าปากต่อปาก ว่าใช้แล้วได้ผลดี เห็นผลไว อาจทำให้ท่านได้รับความเสี่ยงในการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผสมสเตียรอยด์ และอาจได้รับอันตรายต่อร่างกาย เกิดการเจ็บป่วยและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาผลกระทบจากการใช้สเตียรอยด์ในระยะยาว โดย บก.ปคบ. จะดำเนินกวดขันจับกุมผู้ผลิตและจำหน่ายยากลุ่มดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกัน ตัดตอนผลกระทบที่จะเกิดแก่กับสุขภาพของประชาชน โดยประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค