ตำรวจสอบสวนกลางกับ อย.ทลายผลิตยาน้ำสมุนไพรเถื่อน ผสมสเตียรอยด์ยึดของกลางอื้อ!

0
672

วันที่ 29 สิงหาคม 2565 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปอท. รรท.รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยนายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานกรณีการขยายผลการจับกุมการทลายแหล่งผลิตน้ำสมุนไพร ผสมสเตียรอยด์ และแหล่งผลิตภัณฑ์สมุนไพรไม่ได้มาตรฐาน ตรวจยึดของกลาง 49 รายการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ร่วมกันกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำหมายค้นศาลจังหวัดพล เข้าตรวจค้นสถานที่ผลิตและเก็บอาหารและผลิตภัณฑ์สมุนไพรผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จำนวน 4 จุด ผู้ต้องหา 4 คน จากการตรวจค้นพบของกลางเป็นน้ำสมุนไพร กว่า 26,000 ขวด ยาเม็ดในกลุ่มสเตียรอยด์ จำนวนกว่า 2,092,000 เม็ด ยาเม็ดแก้ปวดไม่มีทะเบียน จำนวนกว่า 2,224,000 เม็ด ยาเม็ดแก้แพ้ จำนวนกว่า 5,000 เม็ด พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์การผลิตจำนวนมากส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี

ต่อมาวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงแหล่งจำหน่ายยา สเตียรอยด์ และผู้ผลิตน้ำสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ จำนวน 2 โรงงาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นำหมายค้นของศาลจังหวัดพลและศาลแขวงระยอง เข้าตรวจค้นพื้นที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดระยอง จำนวน 6 จุด ผู้ต้องหา 6 คน โดยพบของกลางน้ำสมุนไพรบรรจุขวด จำนวน 2,600 ขวด, อุปกรณ์การผลิต และพยานหลักฐานอื่นๆ ในคดีจึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี

ทั้งนี้แม้มีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางสืบสวนยังพบว่ามีการลักลอบขายน้ำสมุนไพรผสมเสตียรอยด์ในแพลตฟอร์มออนไลน์ และได้รับการร้องเรียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมิ.ย. 2565 พบว่ามีประชาชนบริโภคยากษัยเส้น ตราปู่แดง แล้วได้รับผลข้างเคียงจนเกิดภาวะโรคหัวกระดูกสะโพกขาดเลือด (Avascular necrosis) และต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพื้นที่ จ.ระนอง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม จนทราบถึงแหล่งผลิต และจำหน่ายน้ำสมุนไพรผสมสเตียรอยด์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ต่อมาวันที่ 24 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพลร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เข้าตรวจค้นพื้นที่จังหวัด จำนวน 2 จุด ดังนี้

1.อาคารเลขที่ 3 หมู่ 1 ต.แวงใหญ่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบ นางนภารัตน์ (สงวนนามสกุล) พบเครื่องดื่มสมุนไพรหลากหลายยี่ห้อและยาเม็ดกลุ่มเสตียรอยด์ พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มผสมสมุนไพร จำนวน 33 รายการ 2.อาคารเลขที่ 44 หมู่ 2 ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น พบ น.ส.สุนิสา (สงวนนามสกุล) พบเครื่องดื่มสมุนไพรและและยาเม็ดกลุ่มเสตียรอยด์พร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเครื่องดื่มผสมสมุนไพร จำนวน 14 รายการ

โดยทั้ง 2 จุด พบของกลางน้ำสมุนไพรบรรจุขวด จำนวน 725 ขวด อุปกรณ์การผลิต ยาเม็ดกลุ่มเสตียรอยด์ จำนวนกว่า 14,000 เม็ด และพยานหลักฐานอื่นๆ ในคดีโดย นางนภารัตน์ฯ รับว่าตนเองเป็นผู้ซื้อยาสเตียรอยด์มาจาก น.ส.กนกลักษณ์ฯ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเคยเข้าตรวจค้น ในพื้นที่ อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ก่อนหน้านี้แล้วนำมาผสมน้ำสมุนไพรก่อนนำไปจำหน่าย ส่วน น.ส.สุนิสาฯ รับว่าน้ำสมุนไพรดังกล่าวตนมีไว้เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าจริง จึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดี

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตา 1.พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ฐาน “ผลิตและจำหน่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ เป็นอาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพเจือปนอยู่ด้วย” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ “ขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3.พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 -ฐาน“ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม” ระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีและปรับไม่เกินสามแสนบาท, ฐาน ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตํารับ” ระวาง โทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับฐาน “ขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ-ฐาน“โฆษณาผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือคุณประโยชน์ผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์  รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่าปัญหาสเตียรอยด์ที่คุกคามสุขภาพคนไทยเป็นเวลานาน เป็นเพราะสรรพคุณของสเตียรอยด์ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและกดภูมิต้านทานของร่างกาย สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีผู้ลักลอบนำไปใส่ในยาชุดหรือนำไปผสมกับสมุนไพรขายในรูปแบบต่างๆ ทั้งยาลูกกลอน ยาแผนโบราณ ยาประดง ยาผงสมุนไพร ยากษัยเส้น โดยเหยื่อส่วนใหญ่มักเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่หาซื้อยากินเอง ใช้กลยุทธ์กล่าวอ้างเป็นสมุนไพรปลอดภัยใช้รักษาสารพัดโรค ทั้งกระดูกทับเส้น ปลายประสาทอักเสบ เหน็บชา เก๊าท์ ปวดหลัง ปวดเอว ปวดข้อ ปวดเข่า
อัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นต้น เมื่อทานยาจะเห็นผลระยะแรกๆ แต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเริ่มแสดงอาการผิดปกติที่สังเกตได้ตั้งแต่มีใบหน้ากลมอูมเหมือนพระจันทร์ มีโหนกที่แก้ม มีหนอกที่คอ ตัวบวมเริ่มมีไตวาย ถ้าหยุดยากะทันหันจะทำให้เกิดภาวะช็อกได้ “สเตียรอยด์” จึงเป็น “ยาควบคุมพิเศษ” ร้านยาขายให้ได้เฉพาะผู้ป่วยที่มีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น จึงขอเตือนผู้บริโภคก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพใดๆ ควรตรวจสอบข้อมูลอนุญาตทางเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th ก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้หากพบแหล่งผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายหรืออาจไม่ปลอดภัยในการบริโภค ขอให้แจ้งเบาะแสร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. โทร. 1556 อีเมล์ 1556@fda.moph.go.th หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า ควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยามารับประทานเพื่อรักษาโรค ควรเลือกซื้อจากร้านขายยา หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตขายผลิตภัณฑ์สมุนไพร และขอเตือนผู้ที่ลักลอบผลิต และขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอมหรือที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันทีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลและกวาดล้างต่อไป หากตรวจพบจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะท่านกำลังทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย เกิดผลกระทบกับร่างกายและเสียโอกาสได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค