ตม.จว.ปทุมธานี ขานรับนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเถื่อน

0
13

 ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เน้นย้ำแก้ปัญหาคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง โดยผิดกฎหมายและคนต่างด้าวตั้งกลุ่มแก๊งกระทำความผิดหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรม ข้ามชาตินั้น พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ปทุมธานี เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมตามนโยบายดังกล่าวข้างต้น

ตำรวจ ตม.จว.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนว่า มีรถยนต์ขนกลุ่มคนต่างด้าวผิดกฎหมาย เข้า-ออก หมู่บ้านแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จำนวนหลายครั้ง แต่ละครั้งจะมีคนต่างด้าว เข้า-ออกประมาณ 20-30 คน โดยพักอาศัยอยู่ประมาณ 1-2 วัน ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ม.ค.68 เวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่สืบสวน ตม.จว.ปทุมธานี จึงได้วางกำลังซุ่มดูพบรถยนต์ต้องสงสัย 3 คัน ขับเข้าไปในหมู่บ้านดังกล่าวฯและกำลังพากลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายคนต่างด้าวขึ้นรถ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและเข้าตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นมีรถยนต์ตู้สีขาวไม่ทราบเลขทะเบียนไหวตัวทันขับหนีออกไปได้ก่อน จึงเข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าวพบผู้กระทำผิดคือ นายศุภณัฐ หรือโด อายุ 31 ปี สัญชาติไทย และนายอดุลย์ หรือ กุ้ง อายุ 34 ปี สัญชาติไทย เป็นคนขับรถยนต์อีก 2 คันที่เหลือ เบื้องต้นให้การว่า ได้รับว่าจ้างจากนายบัง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)ให้ขับรถยนต์ไปส่งแรงงานต่างด้าวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ครั้งละ 15,000 บาททำงานให้นายบังมาแล้ว 2 ครั้ง ก่อนถูกจับกุม และจากการตรวจสอบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 18 รายพร้อมผู้ติดตาม 3 คน พบว่า ไม่สามารถนำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้จึงนำตัวมาตรวจสอบที่ ตม.จว.ปทุมธานี ข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (Biometrics) ไม่พบประวัติข้อมูลการเดินทาง เข้า-ออก ราชอาณาจักร แต่อย่างใด โดยรับว่าลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านช่องทางธรรมชาติ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อ 4 วันก่อนและมาพักคอยและรอคนมารับเพื่อจะเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีเอเย่นต์ชาวเมียนมาเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

 นอกจากนี้พบยาเสพติดประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 0.34 กรัมบรรจุอยู่ในถุงซิปพลาสติกใสพร้อมอุปกรณ์หลอดพลาสติกใสซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงของ นายโด ให้การยอมรับว่าเป็นของตนจริงจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา“ผู้ใดรู้ว่าคนต่างด้าวคนใด เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”และ“มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  ส่วนต่างด้าวแจ่งข้อหา“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”นำตัวทั้งหมดพร้อมของกลางยาเสพติดและรถยนต์ 2 คันส่ง สภ.คูคต ดำเนินคดีตามกฎหมาย