วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ณ อาคารเอกนประสงค์ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.สามโคก อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายนิรันดร์ ใจป้ำ นายกเทศมนตรีตำบลสามโคก เปิดกิจกรรม “การจัดอบรมอสรพิษวิทยาแบ่งปันครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นโดยชมรมอสรพิษวิทยาภาคกลางจังหวัดปทุมธานี มีนางสาวรฐา ตะเพียนทอง หัวหน้าทีมและครูฝึก ชมรมอสรพิษวิทยาภาคกลาง เป็นวิทยากรให้คำแนะนำ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้กว่า 70 คน จากเจ้าหน้าที่จิตอาสาหลายหน่วยงานประกอบด้วย เจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัย และหน่วยงานของเทศบาล
นางสาวรฐา ตะเพียนทอง กล่าวเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการจัดการอบรมครั้งนี้ “เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจับงู ที่ถูกต้อง และปลอดภัยกับตัวเอง จากประสบการณ์ที่ได้อบรมมาการจับงูที่ปลอดภัย คือ ทำให้งูไม่บาดเจ็บ และคนที่จับต้องปลอดภัยด้วย โดยการจำแนกชนิดงู และ พ.ร.บ.ที่ทุกคนควรรู้มาให้ดูกันและงูที่มีความสำคัญทางการแพทย์ อีกทั้งถ้าโดนงูกัดแล้วต้องทำอย่างไรบ้าง พร้อมคำแนะนำและต้องสาธิตเกี่ยวกับวิธีการต่าง ๆ ได้อย่างเชี่ยวชาญ และเป็นมืออาชีพ ก็ยากจะฝากบอกประชาชนเกี่ยวกับปัญหางูเข้าบ้าน ให้แจ้งหน่วยงานโดยตรงของมูลนิธิต่าง ๆ หรือที่ 191 ก็จะประสานงานให้ทุกคนที่เป็นจิตอาสาด้วยใจเข้าไปดำเนินงาน
จึงอยากฝากประชาชนช่วยเฝ้างูไว้อย่าให้คาดสายตาและดูว่างูอยู่บริเวณไหนเพื่อง่ายและรวดเร็วต่อการเข้าช่วยเหลือ รวมทั้งได้จัดการสอนเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อโดนงูกัด เมื่อมีประชาชนโดนงูกัดเราจะปฐมพยาบาลอย่างไรเพื่อจะยืดชีวิตของประชาชนที่ประสบเหตุ ซึ่งงูที่นำมาจัดอบรมในวันนี้ มีทั้ง งูแสงอาทิตย์ งูเขียวหางไหม้ งูสิงหางลาย งูทางมะพร้าว งูเหลือม งูหลาม งูเห่าไทย งูเห่า งูสิงตาโต งูงอด งูเห่าชบา งูเห่าสีนวล ที่มีพิษและดุ
ด้านนายนิรุทธ์ ชมงาม (Nick Wildlife)ประธานโครงได้กล่าวอธิบายเกี่ยวกับการจัดการอบรมต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหางูเข้าบ้านที่เกิดขึ้นในทุกที่ การจับงู การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อโดนงูกัด ซึ่งปัญหางูมีอยู่ทุกวัน เป็นเรื่องยากที่เราจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไร ตราบใดที่มีอาหาร มีน้ำ มีที่อยู่อาศัย ยังไงคนกับงูก็ต้องพบกัน โครงการอสรพิษวิทยา เลยเป็นคำตอบโจกท์และทีมงานตั้งใจจะสร้างขึ้นมาแค่บรรเทาปัญหาเหล่านี้และแนวทางของเรามีดังนี้
1.สร้างความเข้าใจว่าทำไมงูถึงเข้าบ้าน แนะนำให้รู้จักชนิด รู้จักวิธีป้องกัน วิธีปฏิบัติเมื่องูเข้าบ้าน
2.สร้างเครือข่ายเจ้าหน้าที่ของอสรพิษวิทยาให้ครอบคลุมจุดต่างๆ ของประเทศเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาเวลามีคนติดต่อเข้ามา
3.สร้างการแบ่งปัน โดยการนำความรู้และทักษะที่มี นำไปอบรมถ่ายทอดเพิ่มเสริมศักยภาพ ให้กับเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชน หรือการบรรยายให้ความรู้ตามสถานศึกษาต่างๆ