จับแล้ว!ที่แท้สามีเก่าหึงโหด วางแผนหลอกไปที่เปลี่ยว แกล้งทำเป็นแก๊งเงินกู้ใส่หมวกกันน็อก เอาน้ำกรดสาดแคดดี้สาว หลัง “ปวีณา” ประสาน ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี รวบรวมพยานหลักฐานคลี่คลายคดีสำเร็จ นำตัวอาชญากรมารับโทษทางกฎหมาย
วันที่ 3 ก.พ.65 เวลา 13.00 น.ที่ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พานางเอ (นามสมมุติ) เหยื่อสาวแคดดี้ถูกสาดน้ำกรด ไปพบ พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยผกก.สภ.หนองปรือ ได้โทรศัพท์รายงานนางปวีณาฯ ว่าจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว “สามีเก่า” ซึ่งเป็นมือสาดน้ำกรด และจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นางปวีณา ขอบคุณ ผกก.สภ.หนองปรือ และตำรวจ สภ.หนองปรือ ที่คลี่คลายคดีจนสำเร็จ จับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 65 นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี อาชีพแคดดี้ ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ว่าถูกคนร้ายหลอกให้เอาเอกสารกู้เงินไปให้บริเวณที่เปลี่ยวก่อนจะสาดน้ำกรดใส่ที่ใบหน้าและตามร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือน ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี จากนั้น นางปวีณา ได้ประสานและพานางเอ ไปพบ พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี เพื่อสอบปากคำ โดยพ.ต.อ.ดำรง รับปากจะเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งช่วงที่ผ่านมานางเอ ได้อยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย
นางปวีณา กล่าวว่า ขอบคุณพ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ และ ตำรวจ สภ.หนองปรือ ที่คลี่คลายคดีจนสำเร็จและขอบคุณ นางมนัสนันท์ ศุภพิทักษ์สกุล พัฒนาสังคมฯ และ นางนัทธมน กิจดำรงกุล หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ จ.ชลบุรี ที่ได้ร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ และตำรวจ ให้ความช่วยเหลือพาลูกสาว 2 คน อายุ 3 ปี และ 4 ปี ออกมาอยู่ในอ้อมอก ของนางเอ(นามสมมุติ) จากนี้จะประสานแพทย์ผู้เชี่ยวชาญช่วยรักษาบาดแผลนางเออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนางเอยังมีอาการเจ็บบาดแผลทั้งตัวทำให้นอนไม่หลับ จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการผ่าตัดตบแต่งบาดแผลซึ่งจะต้องใช้เวลารักษานานพอสมควร นอกจากบาดแผลทางร่างกายแล้วจะต้องดูแลบาดแผลทางจิตใจด้วย ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามให้การช่วยเหลือเพื่อให้นางเอ กลับสู่สังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป
พ.ต.อ.ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก.สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี เปิดเผยการคลี่คลายคดีว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า สามีเก่า ของนางสาวเอ ได้ทำเฟซบุ๊กขึ้นใหม่ให้เหมือนกับเฟซบุ๊กเพื่อนสนิทของผู้เสียหาย และส่งข้อความสนทนาทางแชทว่าตนสามารถหาเงินกู้รายเดือนได้ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและได้ให้สำเนาบัตรประชาชนของแฟนใหม่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายไปให้สามีเก่า และสามีเก่าของผู้เสียหายได้ใช้สำเนาบัตรประชาชนของแฟนใหมไปเปิดหมายเลขโทรศัพท์ แล้วใช้โทรหาผู้เสียหายก่อนจะนัดออกมาบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อสาดน้ำกรด ทำให้เชื่อว่าแฟนใหม่ของผู้เสียหายเป็นคนทำ ซึ่งในวันเกิดเหตุสามีเก่าเป็นผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยมีนายกร (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของสามีเก่าเป็นผู้ขับขี่
ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คนใส่เสื้อคลุมแขนยาว สวมหมวกกันน็อค และใส่แมสก์เพื่อปิดปังใบหน้า โดยสามีเก่าได้โทรศัพท์หลอกให้ผู้เสียหายมาพบที่จุดเกิดเหตุเพื่อขอดูเอกสารการขอกู้เงิน เมื่อผู้เสียหายมาถึงก็ได้เดินลงมาจากรถเก๋งมาหาสามีเก่าที่ปลอมตัวมากับนายกร ที่ได้ยืนคอยอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นผู้เสียหายได้ยื่นเอกสารที่ใช้สำหรับกู้เงินให้และถูกสามีเก่าเอาน้ำกรดที่เตรียมมาสาดใส่หน้า จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนก็ขี่จยย.หลบหนีไป ต่อมาวันที่ 2 ก.พ.65 ศาลจังหวัดพัทยา ได้อนุมัติออกหมายจับ สามีเก่า ตามหมายจับของศาลจังหวัดพัทยา ที่ 44/2565 ลงวันที่ 2 ก.พ.65 ข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส หลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ จับกุมสามีเก่า มาสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา และให้การว่า มีนายกร เป็นผู้ร่วมก่อเหตุด้วย จึงได้ติดตามไปจับกุมตัวนายกร และแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีและนำตัวไปทำแผนที่เกิดเหตุ
